ยันคดี ทนายตั้ม อมเงินคืบหน้า 80%

วันที่ 4 พ.ย. 2567 เวลา 16:41 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตามกันต่อกับกรณีของ นางจตุพร หรือ "เจ๊อ้อย" หลังเจ้าหน้าที่เรียกตัวมาให้ปากคำถึง 3 ครั้ง ปมเงิน 71 ล้านบาท ที่ให้กับ นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ล่าสุด ตำรวจแจ้งว่ามีความคืบหน้าไป 80% แล้ว ยันคดี ทนายตั้ม อมเงินคืบหน้า 80% พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าคดีของ นางสาวจตุพร หรือ เจ๊อ้อย ที่ถูก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกงเงินไปกว่า 71 ล้านบาท ว่าที่ผ่านมา ได้เรียกสอบปากคำผู้เสียหายมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากมีรายละเอียดเยอะพอสมควร ซึ่งก็มีความคืบหน้าภาพรวมอยู่ที่ประมาณ 80% ขณะเดียวกัน ก็ยังมีการสืบสวนควบคู่กันไปด้วย หากได้หลักฐานพยานต่าง ๆ ก็จะต้องนำมา พิจารณาว่ามีอะไรที่สอดคล้องกันหรือไม่ ส่วนจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับ ก็ต้องมาดูพฤติการณ์ ในข้อหาต่าง ๆ มาประกอบด้วย หากหลักฐานใดขัดแย้งหรือไม่ชัดเจน ก็จะเรียกตัว เจ๊อ้อย มาสอบเพิ่ม เชื่อ "ทนายตั้ม" ไม่หนี แต่ยังไม่ขอพบตำรวจ ส่วนประเด็นเงิน 71 ล้านบาท ให้ด้วยความเสน่หานั้นหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องในสำนวน ไม่ขอพูดถึง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก ทนายตั้ม ว่าจะเข้ามาแสดงตัวแต่อย่างใด ส่วนกระแสข่าวว่าหนีออกนอกประเทศนั้น ตนเชื่อว่าไม่น่าจะหนี เพราะเห็นออกหน้าสื่ออยู่ตลอด แต่หากจะออกไปนอกประเทศจริง ก็คงไม่มีผลกระทบอะไรกับคดี ส่วนกรณีข่าวตำรวจกองปราบฯ ไปค้นหาหลักฐานตามบ้านพัก ผู้เกี่ยวข้องกับ ทนายตั้ม นั้นก็มีการค้นหาหลักฐานตามหลักการปกติ แต่ไม่ขอพูดว่าไปค้นที่ใดบ้าง "สนธิ" ตำหนิ "ทนายเดชา" ขณะเดียวกัน วันนี้ในรายการ Sondhitalk ซึ่งดำเนินรายการโดย คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ยังออกมา ไลฟ์สด พูดถึง ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ระบุว่า ที่ผ่านมา มีคนร้องเรียน นายษิทรา จำนวนมาก แต่เรื่องกลับเงียบหายไป เกิดจากญาตินายษิทรา ที่อยู่ในสภาทนายความ วันนี้จึงอยากให้สภาทนายความ ทำงานอย่างจริงเพื่อประชาชน นอกจากนี้ คุณสนธิ ได้พูดถึง "ทนายเดชา" หรือ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ระบุว่า เป็นคนที่คอยช่วยเหลือ ทนายตั้ม อยู่ ถึงแม้ในกระแสโซเชียลจะต่อต้าน แต่แท้จริงแล้วช่วยเหลือกันอยู่ เรียกสอบปากคำ "เจ๊อ้อย" เพิ่มพรุ่งนี้ ส่วนกรณีที่ตำรวจต้องสอบปากคำ เจ๊อ้อย โดยใช้เวลานานหลายวัน คุณสนธิ ระบุว่า คาดว่าคดีนี้คงจะไม่ใช่การฉ้อโกงธรรมดา ทำให้ตำรวจต้องทำงานอย่างหนักและรอบคอบ เพื่ออุดช่องโหว ต่าง ๆ โดยในพรุ่งนี้ (5 พ.ย.) ตำรวจจะมีการเชิญ เจ๊อ้อย มาสอบปากคำอีกครั้ง จากคดีนี้คาดว่าน่าจะไม่ได้มีแค่ ทนายตั้ม คนเดียวที่จะถูกจับกุม แต่น่าจะเป็นขบวนการ หวัง "ทนายตั้ม" ไม่หลบหนี ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุถึงประเด็น ทนายเดชา สนิทสนมกับ ทนายตั้ม ว่าทั้งคู่รู้จักกัน โดยทาง ทนายเดชา มักพูดในทิศทางที่เชื่อได้ว่า ทนายตั้ม มีทางออก หรือพูดเหมือนจะช่วย ทนายตั้ม แทนที่จะพูดถึงผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ถึงอย่างไร ตนเชื่อมั่นชุดสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะมีคำตอบให้สังคม แต่ ทนายตั้ม น่าจะมีเส้นสายอยู่ภายในตำรวจสอบสวนกลาง และน่าจะรู้ความคืบหน้าของคดีว่าไปถึงไหนแล้ว จึงอยากจะเรียกร้องไปถึง ทนายตั้ม ว่า อย่าหลบหนี เพราะเจ้าตัวเคยบอกเองว่าตนเองไม่ผิด ดังนั้นจะต้องไม่หลบหนีไปไหน คาดว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า