รถเก๋งชนท้ายรถกระบะไฟลุกไหม้

วันที่ 4 พ.ย. 2567 เวลา 11:06 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนท้ายรถกระบะ ไฟลุกท่วมรถเสียหายทั้งคัน เคราะห์ดีที่คนขับรถยังมีสติ หลบหนีออกจากรถได้ทัน ส่วนที่จังหวัดชลบุรี หนุ่มเคราะห์ร้าย ขี่รถจักรยานยนต์มาบนถนน ชนท้ายรถบรรทุกที่กำลังถอยหลังบนถนน เสียชีวิตคาที่ รถเก๋งชนท้ายรถกระบะไฟลุกไหม้ เป็นภาพที่เจ้าหน้าที่บันทึกภาพไว้ได้ หลังเกิดอุบัติเหตุกลางถนน ต้องปิดการจราจรฝั่งขาเข้าตัวเมืองระยอง ให้รถวิ่งสวนทางเลนเดียว ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จะนำรถดับเพลิงเข้ามาฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้รถเก๋งอย่างรุนแรง ที่ชนท้ายรถกระบะทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ใช้เวลาควบคุมเพลิงนาน 5 นาที เพลิงจึงสงบ เหตุการณ์นี้เคราะห์ดีที่ก่อนเกิดเพลิงไหม้คนขับรถเก๋ง ได้เปิดประตูหลบหนีออกมาจากรถได้ทัน สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนขับรถเก๋ง ขับจะมุ่งหน้าไปตัวเมืองระยอง และขับมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ มีรถกระบะจอดติดไฟแดงอยู่ ก่อนพุ่งชนท้ายเขาอย่างจัง ทำให้เพลิงลุกไหม้รถเก๋งทั้งคัน เบื้องต้น ตำรวจ สภ.บ้านค่าย อยู่ระหว่างสอบสวนรถคู่กรณีทั้ง 2 คันอย่างละเอียด และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อดำเนินคดีต่อไป รถ จยย.ชนท้ายรถบรรทุก เหตุการณ์นี้ ไม่โชคดีเหมือนกรณีที่แล้ว หลังจากตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งเหตุรถชนกัน จึงเข้าไปตรวจสอบ พบศพนายธฤษณุ อายุ 31 ปี เสียชีวิตอยู่กลางถนนเลี่ยงเมืองชลบุรี ข้างศพพบรถจักรยานยนต์ในสภาพพังเสียหายทั้งคัน ห่างกันเล็กน้อยพบรถบรรทุก 10 ล้อ สภาพท้ายรถ มีรอยถูกชน และพบนายไพรัช อายุ 58 ปี คนขับรถบรรทุก ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ ตรวจอสอบภาพกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ เห็นรถจักรยานยนต์ขี่มาบนถนน ระหว่างที่รถบรรทุก กำลังถอยหลังริมถนน ช่วงก่อนขึ้นสะพาน ทำให้รถจักรยายนนต์ขี่ไปชนท้ายรถบรรทุกเข้าอย่างจัง เบื้องต้น ตำรวจบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน โดยเรียกคนขับรถบรรทุกไปสอบสวนที่โรงพัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หนุ่มเมาขับรถเก๋งป้ายแดงชนรถจอดริมถนน เป็นภาพวงจรปิด หนุ่มเมาขับรถเก๋งป้ายแดง พุ่งชนรถจอดริมถนนร่วมใจ เทศบาลเมืองเลย แล้วลากไปอัดประตูบ้านชาวบ้านจนพังเสียหาย ส่วนคนขับเป็นชายลักษณะอยู่ในอาการคล้ายมึนเมา ลูกชายเจ้าของบ้าน บอกว่า ก่อนเกิดเหตุแม่โทรหาตนให้มาที่บ้าน จึงรีบเดินทางมาด้วยอาการตกใจ เมื่อมาถึงเห็นสภาพประตูเหล็กบ้านได้รับความเสียหาย ส่วนคนขับรถคู่กรณีแทบจะยืนไม่อยู คาดว่าน่าจะเมา แต่กลับมาถามตนว่าเมาหรือเปล่า ตำรวจ สภ.เมืองเลย ได้ควบคุมตัวคนขับรถเก๋งไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งตำรวจบอกว่าวัดได้เกิน 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งคนขับก็รับสารภาพว่า ได้ขับรถออกมาจากกสถานบันเทิง ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปไม่ถึง 100 เมตร