ล้อรถพ่วงหลุดข้ามเกาะชนกระบะพัง เจ็บ 4 คน
วันที่ 3 พ.ย. 2567 เวลา 19:26 น.
กล้องวงจรปิดจับภาพ ล้อรถพ่วงหลุด กระเด้งข้ามเกาะพุ่งเข้าชนหน้ารถกระบะที่ขับสวนมา พังยับ คนขับและผู้โดยสารเจ็บ 4 คน ล้อรถพ่วงหลุด ชนรถกระบะพังยับ วันนี้ (3 พ.ย.67) ร.ต.ท.ศรายุทธ คำมูล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุล้อรถหลุดข้ามเกาะกลางถนนชนรถกระบะได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ 3 ตำบลสนามชัย ขาเข้าชัยนาท จึงไปตรวจสอบพร้อมมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดชิดอยู่กับขอบเกาะกลางถนน สภาพหน้ารถด้านขวามีรอยถูกชนไฟหน้าแตกพังเสียหายมุมกระจกด้านซ้ายมีรอยกระแทกแตกเสียหาย ใกล้กันมีผู้บาดเจ็บ เป็นชายคนขับทราบชื่อนายกิตติศักดิ์ อายุ 35 ปี พร้อมภรรยาและลูกอีก 2 คน รวมทั้งหมด 4 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ให้แพทย์ตรวจอาการ นายกิตติศักดิ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมาจาก อำเภอสองพี่น้อง กับภรรยา ไปรับลูกสาวอายุ 10 ขวบ กับลูกชายอายุ 4 ขวบที่ตลาดโพธิ์พระยา และกำลังเดินทางจะไปไหว้หลวงพ่อโต มาถึงที่เกิดเหตุเห็นล้อรถกระโดดข้ามถนนและข้ามเกาะกลางพุ่งมาหารถตนพยายามหักหลบแต่ไม่พ้น จึงถูกชนอย่างจังจนรถพังเสียหาย คนในรถทั้งหมด 4 คนได้รับบาดเจ็บคนละเล็กคนละน้อย นอกจากนี้ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบรถพ่วง 22 ล้อ จอดอยู่ข้างทาง สภาพล้อหลังด้านซ้ายหลุดหายไป 1 ล้ อจากการตรวจสอบพบว่าน็อตล้อทั้ง 8 ตัวขาดกระจุย ห่างกันประมาณ 300 เมตรพบล้อรถไปล้มอยู่ที่ข้างร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ หลังเกิดเหตุคนขับรถพ่วงด้วยกันได้ช่วยเข็นล้อรถกลับเพื่อเอามาใส่ให้เหมือนเดิม สอบถามนายมานพ อายุ 39 ปี คนขับรถพ่วงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจากอำเภอบางปลาม้า บรรทุกข้าวเปลือกมา ถึงที่เกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงดังกึก แล้วรถก็เสียการทรงตัว ล้อรถวิ่งแซงหน้ารถของตนมุ่งหน้า กระโดดข้ามเกาะกลางถนน พุ่งไปชนรถกระบะที่ขับสวนทางมาได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุตนพยายามประคองรถเข้าข้างทางเพื่อความปลอดภัย โดยภรรยาของตนที่นั่งมาด้วยได้ลงไปพูดคุยขอโทษคนขับรถกระบะผู้เสียหาย ส่วนตนก็รีบโทรศัพท์แจ้งเถ้าแก่ให้ทราบแล้ว ส่วนค่าความเสียหายคงต้องให้ทางบริษัทประกันดำเนินการรับผิดชอบ ซึ่งตนก็รู้สึกตกใจเป็นห่วงเพราะกลัวคู่กรณีจะได้รับอันตราย ทางด้านพนักงานสอบสวนจะได้สอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อรวบรวมเป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป