“ผบ.ทร.” ลงพื้นเกาะกูด จ.ตราด ยืนยัน “ทหารเรือ” พร้อมดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติ
วันที่ 2 พ.ย. 2567 เวลา 16:22 น.
“ผบ.ทร.” เยี่ยมกำลังพลประจำการเกาะกูด จ.ตราด ลั่นพร้อมดูแลประชาชน และ ผลประโยชน์ประเทศ ขณะที่ นายอำเภอเกาะกูด ยืนยันเป็นดินแดนของไทย วอนผู้รักชาติคำนึงผลกระทบการท่องเที่ยว วันนี้ (2พ.ย.67) เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยมี พล.ร.ต.ชรัมม์ภากร พรหมภากร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด คณะผู้บังคับบัญชาและกำลังพลของหน่วย ให้การต้อนรับ . . . ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวให้โอวาทกับกำลังพลของหน่วย ตอนหนึ่ง ว่า ขอบคุณกำลังพลทุกนาย ที่เสียสละ ต้องห่างจากบ้าน จากครอบครัวที่รักมาประจำการอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ให้คงอยู่คู่กับประเทศตลอดไป พร้อมขอให้ผู้บังคับหน่วยดูแลกำลังพล ในทุกระดับชั้นในเรื่องของความเป็นอยู่ สิทธิประโยชน์ของทุกคนให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง หากมีข้อขัดข้องสิ่งใดให้รายงานขึ้นมาผ่านสายงานผู้บังคับบัญชาได้ทันที ตนเองพร้อมที่จะช่วยแก้ปัญหาของหน่วย เพื่อให้มีความพร้อมในทุกมิติ . . . จากนั้นผู้การทหารเรือได้ให้ สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า วันนี้ ตนมาดูความพร้อมกำลังพล ว่า มีความเป็นอยู่อย่างไร รวมถึงดูความพร้อมของยุทธโธปกรณ์ ในการเฝ้าตรวจ และการเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบส่วนกลาง หรือ หน่วยควบคุมที่เชื่อมโยงสู่ศูนย์กลางของกองทัพเรือ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเห็นภาพพื้นที่ปฏิบัติการ ในพื้นที่ที่เราดูแล โดยได้ให้นโยบายไปว่า ต้องทำอย่างไรให้มีความพร้อม ซึ่งปัจจุบันความพร้อม ถูกยกระดับขึ้นมาจากเดิม ทั้งเครื่องมือปละคนให้มีพร้อมในทุกจุด แต่สิ่งที่ยังติดขัด คือเรื่องของเทคโนโลยี ระบบสนับสนุนต่างๆ เช่นระบบไฟ น้ำ เป็นสิ่งจำเป็น ก็ต้องทำให้เพียงพอกับความต้องการของกำลังพล พล.ร.อ.จิรพล กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่เกาะกูด ของกองทัพเรือ มีหน่วยที่อยู่บนเกาะ คือ หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด และนาวิกโยธิน ซึ่งทั้งสองหน่วยได้ทำงานร่วมกัน เพื่อดูแลในพื้นที่ที่เป็นรอยต่อ รวมถึงมีเรดาร์ดูแลพื้นที่ในทะเล เพื่อส่งข้อมูลให้ส่วนกลางในภาพรวม ทั้งนี้ยืนยันว่ากองทัพเรือมีความพร้อม มีความปลอดภัย ประชาชนสามารถทำมาหากินในพื้นที่นี้ได้อย่างสงบสุข . . ขณะเดียวกัน นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด ได้ลงนามเมื่อวันที่ 1 พ.ย.67 ในแถลงการณ์กรณีเกาะกูดเกี่ยวเนื่องพื้นที่ทับซ้อน เพื่อย้ำว่า อำเภอเกาะกูด เป็นดินแดนของประเทศไทยอย่างชัดเจนตามสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส ร.ศ.125 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2549 (ค.ศ.1907 ) แต่ยังคงมีกลุ่มบุคคลผู้รักชาติพยายาม แสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ถึงกับจะลงมาจัดกิจกรรมในพื้นที่อำเภอเกาะกูด ซึ่งจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ ของประชาชนบนเกาะกูดอย่างร้ายแรง อำเภอเกาะกูด เป็นอำเภอที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาทางท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน สร้างรายได้ไห้กับ ประเทศไทยนับพันล้านบาท จึงขอวิงวอนกับกลุ่มผู้รักชาติที่เสนอข่าวเกี่ยวกับเกาะกูดได้พิจารณาให้รอบคอบก่อนนำเสนอ เพราะจะกระทบต่อประชาชน และผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวของอำเภอเกาะกูด โดยตรง