ผบ.ตร. สั่งเด็ดปีกแก๊งตำรวจ อุ้มรีดเรียกเงินชาวจีน 300 ล้านบาท

วันที่ 1 พ.ย. 2567 เวลา 11:06 น.

ผบ.ตร.สั่งเด็ดปีก “แก๊งตำรวจ” อุ้มรีดเรียกเงินชาวจีน 300 ล้านบาท สั่งเร่งรัดสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดี และให้ต้นสังกัดดำเนินการทั้งวินัย อาญา อย่างเด็ดขาด เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีข้าราชการตำรวจ สังกัดกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโลยี และมีตำรวจในสั่งกัดหน่วยอื่น ๆ มีกรณีเรียกรับผลประโยชน์กลุ่มจีนเทา กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เปิดเผยว่าได้สั่งกำชับให้ พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ดำเนินการเร่งรัดสั่งการสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดี และให้ต้นสังกัดดำเนินการทั้งวินัย อาญา อย่างเด็ดขาดโดยให้สืบสวนขยายผลผู้มีส่วนในการกระทำผิดต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด แล้วรายงานผลให้ทราบโดยเร็วเป็นตำรวจทำผิดต้องรับโทษ จะไม่มีละเว้น ทำดีต้องยกย่องเชิดชูให้รางวัล” ล่าสุด พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท ลงนามในคำสั่ง 209/2567 ลงวันที่ 21 ต.ค.เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ใจความว่าต่อมา กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้มีคำสั่งที่ 96/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคมเรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นั้นฉะนั้น เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมิให้เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงให้ ร.ต.อ.ธนกฤต กาญจนมาศ รองสว.กก.1บก.สอท.1,ด.ต.สุพรรณ ของใส , จ.ต.กิตติภูมิ จีนแปลงชาติ ผบ.หมู่กก.1บก.สอท.1 ไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.สอท1. มาช่วยราชการที่ ศปก.บช.สอท. โดยให้ขาดจากตำแหน่ง ทั้งนี้มีรายงานว่าคำสั่งดังกล่าวนั้น มาจากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่ามีตำรวจไซเบอร์ทั้ง 3 นาย ได้ไปคุมตัว คนจีน 4 คน จากบ้านพักในพื้นที่บางแก้ว โดยอ้างว่าเอียวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และตรวจค้นพลการโดยไม่มีหมายค้นก่อนนำตัวมายังบก.สอท.1 เพื่อสอบสวนพร้อมกับมี การเรียกรับเงิน 5.7 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังทราบเรื่องทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ได้ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบให พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผบก.สอท.1 เป็นประธานกรรมการ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วัน