ลูกเขยช้ำ ถูกพรากลูกเมีย แม่ยายพูดแทงใจดำ กำลังมีคนมาขอเมียแต่งงาน ชักปืนยิงใส่หน้าบาดเจ็บ

วันที่ 31 ต.ค. 2567 เวลา 11:18 น.

ลูกเขยช็อก ถูกพรากลูกเมีย แม่ยายไล่กลับ อย่ามาเหยียบบ้านอีก พร้อมพูดแทงใจดำ กำลังมีคนมาขอเมียแต่งงาน ชักปืนยิงใส่หน้าแม่ยายบาดเจ็บ วันนี้ (31 ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ พ.ต.ท.นิมมาน นิกูโน สารวัตร (สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 4 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงลงไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.อดินันท์ วงศ์หมัดทอง รอง ผกก.ป.สภ.หาดใหญ่, พ.ต.ต.ธีระพงศ์ วิชิต สว.สส. สายตรวจชุดวิหค และชุดเผชิญเหตุเวหา กำลังตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวน ภาค 9 ที่เกิดเหตุทราบว่า มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ น.ส.นฤมล อายุ 55 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์เข้าปากทะลุแก้มจนฟันหลุด ได้รับบาดเจ็บ หน่วยกู้ชีพคลองแห และญาติ ได้พาตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ ส่วนคนยิงคือ นายอดิศร หรือโต้ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกเขย หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้านท่ามกลางความมืด พร้อมกับอาวุธปืน นอกจากนี้ ยังพบรถเก๋งสีเขียวจอดอยู่ริมถนนข้างบ้าน ซึ่งเป็นรถของนายอดิศร สภาพกระจกหน้าแตกเป็นรูโบ๋ เพราะถูกญาติคนเจ็บขว้างก้อนหินใส่ขณะกำลังจะวิ่งหนีไปขึ้นรถ จนต้องทิ้งรถวิ่งหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมใช้โดรนบินเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ต้องระวังเพราะคนร้ายมีปืน และสภาพแวดล้อมที่มืดมาก หลังเวลาผ่านไปกว่า 2 ชม. ก็ไม่พบตัว เบื้องต้นจากการสอบถาม สามีผู้ถูกยิง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอดิศร ลูกเขย ได้แยกกันอยู่กับลูกสาวตนมาราว 2-3 เดือนแล้ว ช่วงเกิดเหตุขับรถเก๋งมาหาลูก 3 คนที่บ้าน และเข้าไปกินข้าวในบ้าน แม่ยายจึงบอกให้กลับได้แล้ว เพราะมาอยู่นานแล้ว แต่นายอดิศรขอเวลาอยู่ต่ออีก 5 นาที แม่ยายไม่ยอม นายอดิศรจึงเดินออกจากบ้าน และชักปืนมายิงใส่แม่ยายเข้าที่ปาก จากนั้นจะวิ่งไปขึ้นรถเก๋ง แต่ถูกญาติ ๆ และชาวบ้านไล่ตาม จึงต้องวิ่งหนีลงไปในดงผักบุ้งข้างบ้าน ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงคืน นายอดิศร ยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ โดยทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ไปรับตัว และพากลับมาที่บ้านเกิดเหตุ เพื่อค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยพบว่านำปืนไปซ่อนไว้หลังบ้าน แต่ระหว่างที่ตำรวจคุมตัวชี้จุดเกิดเหตุ พี่ชายของผู้ถูกยิงพยายามเข้ามาทำร้ายนายอดิศรด้วยความโกรธ แต่ตำรวจได้กันตัวเอาไว้ และรีบพาขึ้นรถไปยัง สภ.หาดใหญ่ เพื่อป้องกันความวุ่นวายบานปลายจากญาติที่ต่างโกรธแค้น สอบถาม นายอดิศร ให้การว่า หลังจากที่ยิงแม่ยายแล้ว ทีแรกจะเดินไปขึ้นรถเก๋ง แต่ถูกพ่อตาตามไล่หลังมา และตะโกนให้คนช่วยจับตัว และบอกให้ยิง ตนจึงวิ่งหนีมาเรื่อย ๆ มาออกตรงหน้าสวนสาธารณะหาดใหญ่ ทีแรกจะเข้ามอบตัวที่ สภ.หาดใหญ่ แต่ก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะญาติพี่น้องแม่ยายเป็นตำรวจอยู่ จึงเดินมาเรื่อย ๆ และระหว่างทางก็ขออาศัยรถชาวบ้านบ้าง อ้างว่ารถเสีย จนมาถึงปั๊มน้ำมันในพื้นที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ระหว่างนั้นได้โทรศัพท์กลับไปหาพ่อ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และขอช่วยให้เด็กปั๊มโทรไปหาตำรวจ สภ.ทุ่งลุง เพื่อให้มารับตัว เพราะว่าตนเดินไปมอบตัวไม่ไหวแล้ว นายอดิศร เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ต้นตอของเรื่องนี้มาจากการที่แม่ยายพาลูกเมียของตนกลับมาอยู่ที่บ้าน เพื่อให้ห่างกัน และบอกว่ากำลังจะมีคนมาขอเมียตนแต่งงาน เพราะอยู่กับตนลำบาก ซึ่งตนช็อกมาก เพราะอยู่กินกันมานานถึง 13 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน อายุ 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี และตนกับเมียก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ที่ผ่านมาก็ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น โดยแยกกันอยู่กับเมียมาประมาณ 2 เดือนกว่าแล้ว เรื่องนี้เริ่มจากเมื่อ 2 เดือนก่อน แม่ยายได้ไปรับลูกเมียของตนจากบ้านมากินหมูกะทะ แต่พอตนจะไปรับกลับ แม่ยายก็ไม่ให้กลับ โดยบอกว่า ไม่ให้อยู่ด้วยกันแล้ว เมื่อไม่ยอมให้ลูกเมียกลับไปอยู่ที่บ้าน ตนก็ขอมาทำงาน และอยู่กับลูกกับเมียที่บ้านแม่ยาย แต่แม่ยายก็ไม่ยอมให้อยู่ ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่า มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มารู้จากลูกเล่าให้ฟังว่า มีคนมารับเมียรับลูกไปกินข้าว และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตนไปเห็นเต็มตา จึงเข้าไปพูดกับชายคนนั้นตรง ๆ ว่า อย่ามายุ่งกับลูกกับเมียตน ซึ่งถ้าตนคิดร้ายจริง ๆ หรือพาปืนไปทุกวัน ตนคงจะยิงชายคนนั้นไปแล้ว ทั้งที่รู้ว่าทำกันแบบนี้ แต่ก็ทนเจ็บสะสมมามาก กระทั่งเมื่อวานนี้แม่ยายบอกว่าจะมีคนมาสู่ขอเมียตน ซึ่งฟังแล้วมันแทงใจดำมาก และตนขอมานอนที่บ้านแม่ยาย 1 คืน เพื่อขอคุยกับเมียว่าถ้าไม่อยู่ด้วยกันแล้ว ก็บอกตรง ๆ ตนจะได้ทำใจ แต่เมียกลัวตนเสียความรู้สึก ไม่กล้าบอกตรง ๆ และบอกว่า จะให้คำตอบในวันนี้ตอนค่ำ ก็เลยขับรถมาหาเมียที่บ้านแม่ยาย ความตั้งใจจริงไม่ได้จะมายิงแม่ยาย แต่จะมายิงหัวตัวเองในบ้านแม่ยาย ด้วยความที่เจ็บใจทั้งเมียและแม่ยาย และก่อนหน้านี้ก็คุยกับเมียทางมือถือไว้ก่อนแล้วว่า ถ้าตนตายก็ให้มาร่วมงานศพ และบอกให้ซื้อของมาเตรียมไว้ และยังบอกกับแม่ยายด้วยว่า ถ้าไปงานศพตนอย่าไปทะเลาะกับแม่ตน และยังได้ลาพ่อลาแม่แล้วด้วย เพราะเหนื่อยกับชีวิตมามาก และตอนที่มาที่บ้านแม่ยายก็บอกกับเมียว่า ขอกินข้าวด้วยกันเป็นมื้อสุดท้าย ด้วยความที่เจ็บใจ และคำตอบที่ได้จากปากเมียคือ มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะกลับไปเหมือนเดิม ตนถึงกับกินข้าวไปร้องให้ไป และถึงกับกราบตีนเมียอ้อนวอนขอให้กลับมาอยู่ด้วยกัน เพราะรักเมียรักลูกมาก นายอดิศร บอกว่า ตอนที่นั่งคุยกับเมียก็ถูกแม่ยายไล่ให้กลับ ทีแรกตนก็ตั้งใจจะกลับ เดินออกไปใส่รองเท้าแล้ว แต่ถูกแม่ยายด่าแม่ไล่หลังบอกว่า ไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก พอได้ยินคำนี้จึงชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ทันที โดยที่แทบไม่ได้เล็ง ที่ทำไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เสียใจยอมรับผิด ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่าง  แต่ตอนนั้นห้ามใจตัวเองไม่ได้ ถ้าย้อนเวลากลับได้จะไม่ทำ หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ทำบันทึกการจับกุม พร้อมกับคุมตัวดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ , มีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง และ ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วน ส่วนคนเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่