ศาลนัดพิพากษา อัจฉริยะ หลังถูกฟ้องหมิ่นประมาท มั่นใจ ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดชนะคดีล้าน เปอร์เซ็นต์

วันที่ 31 ต.ค. 2567 เวลา 10:24 น.

ศาลนัดพิพากษา “อัจฉริยะ“ หลังถูกฟ้องหมิ่นประมาท มั่นใจ ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดชนะคดีล้าน เปอร์เซ็นต์ วันนี้ 31 ตุลาคม 2567 ที่ศาลอาญารัชดา ถ. รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ศาลได้มีการนัดฟังคำพิพากษา 2 กรณีที่มี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเป็นจำเลย โดยกรณีแรก คือชุดสืบสวนจังหวัดนนทบุรีได้มีการฟ้องร้อง นายอัจฉริยะ ว่าการกระทำของนายอัจฉริยะ เป็นความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ และหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนซึ่งได้รับความเสียหาย จึงได้มอบอำนาจให้ตัวแทนคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มาร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ในคดีน.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ “แตงโม” รวมถึงกรณีที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือ “ผู้การจ๋อ” ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หรือผู้การจ๋อ ยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ ในฐานความผิดฐาน แจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาต่อศาลอาญา ตาม ป.อาญา มาตรา 326, 329 ซึ่งเวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญารัชดา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยก่อนขึ้นฟังคำพิพากษา ว่ามี 2 คดีที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาซึ่งคดีแรกคดีที่ “ผู้การจ๋อ” ยื่นฟ้องตนในฐานความผิดแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และคดีที่สอง คือกรณีที่ 27 ตำรวจใน “คดีแตงโม“ ฟ้องในฐานความผิดแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาเช่นเดียวกัน นายอัจฉริยะ บอกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายในวันนี้ ไม่ว่าตนเองจะชนะ หรือตัวเองจะแพ้ทุกอย่างก็จะต้องไปสู้กันในศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาต่อไป เพราะฉะนั้นตนก็ได้ทำหน้าที่ในการสืบพยานเสร็จสิ้น และก็มั่นใจว่าศาลจะให้ความยุติธรรมกับตน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งที่นายอัจฉริยะมั่นใจ คือในเรื่องของพยานหลักฐานหรือไม่ นายอัจฉริยะ ระบุว่าตนไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา และสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นเรื่องจริง รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ จึงมั่นใจแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่ของดุลพินิจของศาล แต่ตนก็มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม พร้อมย้ำว่าใน ”คดีแตงโม“ ตนไม่ได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ลักษณะ คือให้ข้อคิดให้ตำรวจรองไปแก้ไขปรับปรุง พร้อมบอกว่าตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยมีประเด็นโกรธเคืองกันมาก่อน และคดีแตงโมเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และมีข้อกังขาเป็นอย่างมาก ตนจึงมั่นใจว่าคดีนี้ตนจะเป็นฝ่ายชนะ พร้อมบอกว่ายังเหลืออีก 5 คดีที่ยังจะตามมาเพราะตนถูกฟ้องมาทั้งหมด 6 คดีในคดีของแตงโมแต่ในทุกคดีตนมั่นใจอยู่แล้วว่าตนไม่ได้ทำความผิดตามคำฟ้อง และมั่นใจว่าคำพิพากษาในวันนี้จะเป็นผลบวกไม่เป็นลบอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันว่าตนมั่นใจในคดีแตงโมว่าตนไม่ผิดและมั่นใจหนึ่งล้านเปอร์เซ็นต์ ส่วนคดีอื่นนั้นตนไม่รู้ว่าการตัดสินจะเป็นอย่างไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแส ผลตอบรับหลังจากที่เมื่อวานนายอัจฉริยะออกมาพูดถึงกรณีของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน นายอัจฉริยะระบุว่า เรื่องนี้ก็มีทั้ง 2 มุมมองว่าคนที่จะด่าก็จะด่าอยู่ตลอดต่อให้ตนพูดดีก็ยังจะถูกด่า นายอัจฉริยะ บอกว่าตนไปห้ามพวกตรรกะต่ำไม่ได้ เพราะคนพวกนี้คอมเม้นต์ด้วยความเมามัน และคอมเม้นต์ด้วยความอคติ และไม่เคยรู้ว่าตนทำงานมาเหนื่อยแค่ไหนตลอด 10 ปีที่ทำงานมาแต่ตนก็ไม่ได้สนใจ เพราะมองว่า คือขยะโซเชียล และเป็นคนที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งเมื่อวานก็เป็นเพียงแค่ประเด็นที่สื่อมวลชนอยากจะรู้ว่าชื่อเก่าของเขานั้นเคยไปก่อเหตุมาหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้อธิบายให้ฟังไปแล้ว และมองว่าประเด็นนี้เป็นประโยชน์ต่อทนายตั้ม ซึ่งก็มีบางคนที่มองว่าตนเข้าข้างทนายตั้ม แต่ความจริงก็คือความจริงไม่สามารถที่จะไปบิดเบือนได้ถ้าเขาไม่ผิดจะไปบอกว่าเขาผิดก็ไม่มีทาง เมื่อถามว่าทนายตั้มเข้าใจในประเด็นนี้หรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่าส่วนตัวเชื่อมั่นว่าเขาน่าจะเข้าใจในระดับหนึ่งส่วนเขาจะคิดอย่างไรก็เป็นเรื่องของเวรกรรม สิ่งที่ทำมาในอดีตถึงเวลาวันนึงระเบิดขึ้นมาได้มันก็เป็นเพราะการกระทำของตัวเขาเองไม่ได้เกิดจากการกระทำของตน เพราะตัวนายอัจฉริยะเองก็ไม่ได้มีอะไรติดใจกับทนายตั้มอยู่แล้ว และอยากจะบอกว่าวันนี้ตนก็ทำหน้าที่ของตนเองดีที่สุดแล้ว ส่วนใครจะมองว่าจับมือกันแล้วมาเปิดโปรกันอีก นายอัจฉริยะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องของการเปิดโปงแต่เป็นเรื่องของการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบ เพราะตนก็ไม่อยากจะให้สื่อมวลชนโทรศัพท์ไปหาแล้วก็อัดเสียง ตนจึงอยากที่จะอธิบายเพียงครั้งเดียว ต่อมาในเวลา 9.20 น. ได้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งยืนถือดอกไม้รอให้กำลังใจ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือ “ผู้การจ๋อ” ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หรือผู้การจ๋อ และเมื่อ พล.ต.ต.ธีรเดช เดินทางมาถึงที่ศาลอาญารัชดาก็ได้ ก็ได้รับดอกไม้จากประชาชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนที่จะขึ้นไปฟังคำพิพากษา โดยยังไม่ได้ การสัมภาษณ์แต่อย่างไร