อัจฉริยะ ห่วง ทนายตั้ม ถูกรุมกินโต๊ะ
วันที่ 30 ต.ค. 2567 เวลา 22:18 น.
ประเด็นเด็ด 7 สี - มรสุมยังถาโถมใส่ "ทนายตั้ม" หลังท่าที นายอัจฉริยะ เหมือนจะหวังดี แต่ประสงค์ร้าย นำข้อมูลคดีพรากผู้เยาว์ในอดีตของทนายตั้มมาเปิดเผย แถมยังฝากเตือน "ทำอะไรไว้ ระวังดาบนั้นจะคืนสนอง" คดีเก่ายังไม่จบ คดีใหม่มาอีกแล้ว สำหรับ "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หลังถูก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานเก่าคดีพรากผู้เยาว์ ของ “ทนายตั้ม” และพวกอีก 3 คน เมื่อปี 2543 มาเปิดเผย ทั้งที่จับมือคืนดีร่วมโต๊ะแถลงกันไปหมาด ๆ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ บอกว่า คดีเก่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่ทนายตั้มยังใช้ชื่อเดิม ไปพรากผู้เยาว์ผู้เสียหายเป็นลูกสาวตำรวจ ตำรวจเลยออกหมายจับพวกของทนายตั้ม 3 คน ส่วนทนายตั้มได้เข้ามอบตัว ต่อมาอัยการสั่งไม่ฟ้อง และมีการออกกฎหมายล้างมลทินลบประวัติคดี จึงทำให้ทนายตั้มได้รับใบอนุญาตทนายความ เมื่อปี 2547 ส่วนคดีที่อัจฉริยะ เคยร้องเรียนกรณีทนายตั้ม ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์ช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 คดี นั้น มี 1 คดี ที่จบไปแล้ว เนื่องจากอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 สั่งไม่ฟ้อง แต่ยังเหลืออีก 1 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งฟ้อง อัจฉริยะ บอกว่าที่ออกมาชี้แจง ก็เพราะมีสื่อมวลชนสอบถามมาว่า ได้พูดคุยกับทนายตั้ม เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ ตนจึงสอบถามทนายตั้มและได้รับอนุญาตให้พูดได้ เพราะรู้ที่มาที่ไปหลายเรื่องที่เกี่ยวกับทนายตั้ม ส่วนเรื่องฉ้อโกงเงินลูกความ 71 ล้านบาท, ประเด็นรถหรู และประเด็นเงิน 39 ล้านบาท มองว่า เป็นเรื่องคดีความ จึงไม่ขอพูดถึง เพราะเหมือนเป็นการซ้ำเติมกัน แต่ทนายตั้มก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก ต้องไปสู้คดีพิสูจน์ตัวเอง นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายไว้ว่าที่ทนายตั้ม ไปเปิดศึกกับนักการเมือง, บิ๊กตำรวจ , อดีตบิ๊กตำรวจ และสื่อมวลชนอาวุโสนั้นทำไปเพื่ออะไร รับงานใครมาโจมตีหรือไม่ จึงฝากเตือนว่า หากคิดจะเล่นงานใครต้องขาวบริสุทธิ์จริง ๆ ไม่เช่นนั้น "ดาบนั้นจะคืนสนอง" ยังต้องตามกันต่อว่า มรสุมที่ถาโถมเข้าใส่ทนายตั้ม จะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น จะมีความจริงเพียงแค่หนึ่งเดียว แต่ฝ่ายใดที่จะพูดความจริงกันแน่