สนธิกำลังบุกทลายแก๊งลักรถรายใหญ่ขณะชำแหละอะไหล่
วันที่ 30 ต.ค. 2567 เวลา 17:15 น.
สืบสายไหม ร่วมสืบบางประกง สนธิกำลัง บุกทลายแก็งลักรถรายใหญ่ รวบ 3 คนร้ายขณะชำแหละรถ ยึดของกลางได้หลายรายการ วันนี้ ( 30 ต.ค. ) พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม พร้อม พ.ต.อ.พงศ์สัณห์ มีศรี ผกก.สภ.บางปะกง และตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม สน.สายไหม และสภ.บางปะกง บุกทลายแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ จับกุมนายพิทักษ์กุล หรือเบนซ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนีและการพาทรัพย์นั้นไป ,นายวีรภัทร์ อายุ 32 ปี ,นายกันต์ชยุด อายุ 44 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ 15 คัน รถกระบะเสริมตู้ทึบ 2 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 48 แผ่น แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ 3 แผ่น โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง อุปกรณ์สว่านไฟฟ้าและบัดกรี 4 ชิ้น ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ 8 ใบ อะไหล่สวิตซ์สตาร์ท 14 ชิ้น โดยจับกุมได้ภายในบ้านพัก ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 55 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ สืบเนื่องจาก ตำรวจสืบสวนทราบว่า บ้านหลังหนึ่งในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 55 แขวงออเงิน เขตสายไหม ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถ มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปจับกลุ่ม มั่วสุมกันเป็นประจำ ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้รับการประสานงานจาก ฝ่ายสืบสวน สภ.บางประกง ว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับ หลบหนีมาอยู่ในอู่รถดังกล่าว ฝ่ายสืบสวนสน.สายไหม จึงได้บูรณาการร่วมกันกับฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง ไปตรวจสอบเพื่อติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่อู่ซ่อมรถดังกล่าว และได้พบผู้ต้องสงสัย ซึ่งตรงตามบุคคลที่มีหมายจับ นั่งมั่วสุมกันในลักษณะที่เชื่อได้ว่ากำลังกระทำผิดกฎหมาย หรือมีสิ่งของที่มีไว้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และพบนายพิทักษ์กุล บุคคลตามหมายจับ รวมถึงนายวีรภัทร์ และนายกันต์ชยุต ที่กำลังแยกชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์อยู่ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นรถที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และยังพบรถจักรยานยนต์ ต้องสงสัยอีก 14 คัน รถยนต์กระบะตู้ทึบ 2 คัน ที่ใช้ในการขนย้ายรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หลังบ้าน จึงได้ตรวจยึดมาตรวจสอบ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนีและการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจรเพื่อค้ากำไร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง พร้อมของกลางรถที่แจ้งหายไว้ รถกระบะที่ใช้ขนย้าย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดไว้ อีก 14 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ และแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ ที่พบเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ พบว่าส่วนใหญ่ได้มีการแจ้งหายไว้ในหลายพื้นที่ทั้ง สภ.ปลายบาง สภ.เสม็ด สภ.บางปะกง สภ.บางดสาธง และสภ.แสนสุข ซึ่งจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป