พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี

วันที่ 28 ต.ค. 2567 เวลา 20:03 น.

เวลา 17.39 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ไปยังวัดพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โอกาสนี้ เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้า ซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ใกล้เจ้าอาวาส จากนั้น ถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน และธูปเทียนแพบูชาพระพุทธปฏิมาประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาประธานพระอุโบสถ ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา เมื่อเจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์จบ ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้าพาดระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ผินพระพักตร์สู่พระประธาน ทรงว่า "นะโม ตัสสะฯ" จบ 3 หนแล้ว ผินพระพักตร์สู่ที่ชุมนุมสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้า ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมเสร็จแล้ว และพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐินเสร็จกลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์พร้อมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมารกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน จากนั้น ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก วัดพระพุทธบาท เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร สร้างขึ้นเมื่อปี 2167 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม กรุงศรีอยุธยา พระอารามแบ่งออกเป็นสองเขตเพื่อความสะดวกในการดูแลรักษา คือ เขตพุทธาวาส เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาท พระอุโบสถ และปูชนียสถานอื่น ๆ ที่อยู่บนไหล่เขาตลอดลงมาถึงเชิงเขา ส่วนเขตสังฆาวาส เป็นที่จำพรรษาของพระสงฆ์และสามเณร, ศาลาการเปรียญ ตั้งอยู่ที่บริเวณพื้นดินติดกับเขตพุทธาวาส ทั้งสองเขตมีกำแพงล้อมรอบเป็นสัดส่วน มีถนนคั่นกลางระหว่างเขต ปัจจุบัน มีพระธรรมปิฎก เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ จำพรรษา 33 รูป และสามเณร 4 รูป จากนั้น เสด็จออกจากพระอุโบสถ เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระมกุฏพันธนเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะ พระมกุฏพันธนเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างและยกยอดพระมณฑป ตกแต่งพระมณฑปใหญ่และพระมณฑปน้อยให้งดงาม รวมทั้ง ทรงเปลี่ยนแผ่นเงินปูพื้นเป็นเสื่อเงิน และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระมกุฏพันธนเจดีย์ จากนั้น เสด็จเข้าพระมณฑปรอยพระพุทธบาท ทรงวางพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่ประทับบนแผ่นหินเหนือเขาสุวรรณบรรพต ด้วยเป็นรอยพระพุทธบาทตามลักษณะ 108 ประการ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สร้างมณฑปชั่วคราวครอบรอยพระพุทธบาทไว้ เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประกอบเครื่องยอดรูปปราสาท 7 ชั้น ด้านนอกปิดทองประดับกระจกเป็นรูปเทพพนม พุ่มข้าวบิณฑ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ปฎิสังขรณ์เปลี่ยนเครื่องยอดใหม่ และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระจุลมงกุฎสวมยอดพระมณฑป และสมโภชพระพุทธบาท เมื่อปี 2495 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระจุลมงกุฎและสมโภชพระพุทธบาทอีกครั้ง เมื่อปี 2542 การเสด็จพระราชดำเนินมาในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระพุทธบาท นับเป็นพระกฐินหลวง ที่เสด็จพระราชดำเนินมาด้วยพระองค์เองเป็นครั้งแรก เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567