เอกสาร 9.2 หมื่นแผ่น สำนวนคดีดิไอคอนส่งถึงดีเอสไอ

วันที่ 28 ต.ค. 2567 เวลา 18:09 น.

เอกสารเกือบแสนแผ่น สำนวนคดีดิไอคอนถึงดีเอสไอ  ลุ้นพรุ่งนี้ คกก.กลั่นกรอง ชี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ยืนยันพิจารณาเร็วที่สุด เชื่อทันก่อนครบกำหนดผัดฝากขัง ผัดแรก              วันนี้ (28 ต.ค.67) พล.ต.ต. วิทยา  ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นำสำนวนการสอบสวนคดีดิไอคอน หรือคดีอาญาที่ 70/2567 ของ บก.ปคบ. พร้อมเอกสาร จำนวน 92,289 แผ่น มาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ โดยมี ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ร่วมรับมอบสำนวน ร.ต.อ.วิษณุ เปิดเผยว่า ในการพิจารณาว่าเป็นคดีพิเศษที่อยู่ในอำนาจอธิบดีดีเอสไอ จะรับไว้ดำเนินการได้หรือไม่ ต้องขอรอดูข้อเท็จจริงทั้งหมด ทั้งเนื้อหาพฤติการณ์ทางคดี พยานหลักฐาน เพราะเดิมทีตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ไว้ก่อน สิ่งที่จะต้องพิจารณาต่อไป คือ การพิจารณาความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 จะต้องมีการเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองการรับคดีพิเศษ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ จึงได้มีข้อสั่งการให้กองบริหารคดีพิเศษเชิญประชุมคณะกรรมการ ในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.67) เวลา 09.00 น. โดยจะเชิญผู้สืบสวนสอบสวนของสำนักงานแห่งชาติ มาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการฯ หากเป็นคดีที่อธิบดีดีเอสไอ มีอำนาจสั่งรับคดีได้ก็จะเสนอเพื่อมีคำสั่งรับเป็นคดีพิเศษ แต่ในกรณีที่เห็นว่าไม่อยู่ในอำนาจก็จะเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ให้พิจารณามีมติรับเป็นคดีพิเศษโดยด่วนต่อไป ร.ต.อ.วิษณุ กล่าว่า ระหว่างนี้ตำรวจยังคงมีหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนคดีได้ แต่เมื่อดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ดีเอสไอจะเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มเติม การออกหมายเรียกพยาน หรือการเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาในเรือนจำ รวมถึงผู้ต้องหาล็อตที่ 2 หากพยานหลักฐานถึงใคร หรือใครไปมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด หรือเป็นตัวการร่วม ดีเอสไอก็ต้องพิจารณาดำเนินคดี ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ จะทำหนังสือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอให้มีอัยการเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในคดี เนื่องจกอาจมีบางพฤติการณ์ในคดีที่อาจเข้าเข้าข่ายเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งจะต้องมีพนักงานอัยการมาร่วมพิจารณาด้วย และเชื่อว่าจะสามารถพิจารณาได้ทันก่อนกำหนดฝากขังทั้ง 4 ผัด หรือทันก่อนที่ผู้ต้องหาจะติดต่อขอประกันตัวในผัดต่อไป