เอก สายไหมต้องรอด ชี้แจงปมพยานเก๊ น้อมรับหากต้องถูกดำเนินคดี
วันที่ 25 ต.ค. 2567 เวลา 17:28 น.
เอก สายไหมต้องรอด ชี้แจงประเด็นนำพยานเก๊ให้ข้อมูลคดี ดิไอคอน ยืนยัน ช่วยเพราะหวังดี ไม่มีเจตนาแฝง พร้อมขอโทษตำรวจ และทนาย ยินดีหากถูกดำเนินคดี (25 ต.ค.67) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งมูลนิธิสายไหมต้องรอด ชี้แจงประเด็นที่พาพยาน หรือพลเมืองดีเข้าให้ข้อมูลการโยกย้ายทรัพย์สินที่เป็นเงินดิจิทัล แต่สุดท้าย ตำรวจ แจ้งว่า เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่เป็นความจริง นายเอกภพ ยืนยันว่า ตนเองมีเจตนาบริสุทธิ์ ต้องการช่วยเหลือผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อดิไอคอน ด้วยเจตนาดี ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่ได้ต้องการทะเลาะกับทนาย หรือโจมตีดิสเครดิตการทำงานของตำรวจ ทั้งนี้มีผู้ให้ข้อมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ตนเองเชื่อว่าข้อมูลจากผู้เสียหาย และประชาชนเหล่านี้ น่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ จึงพาพยานไปให้ข้อมูล เช่นเดียวกับพยานที่พาไปเมื่อ 2-3 วันก่อน สำหรับพยานรายนี้ เข้ามาให้ข้อมูลตนเองเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของบรรดาบิ๊กบอส ที่อาจมีการยักย้ายถ่ายเท โดยบิ๊กบอสบางคนมีทรัพย์สินลักษณะเป็นสกุลเงินดิจิทัล ตนเองคิดว่าน่าสนใจ และน่าจะเป็นประโยชน์กับตำรวจ ทั้งนี้ อยากขอโทษตำรวจ และทนายของดิไอคอน หากทำให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมน้อมรับหากต้องถูกดำเนินคดี แต่ขออย่าไปดำเนินคดีกับพยาน ถ้าจะดำเนินคดี ก็ให้มาดำเนินคดีกับตนเองเพียงผู้เดียว เมื่อถามว่า เหมือนการฟ้องปิดปากหรือไม่ นายเอกภพ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่น่ากังวล เชื่อว่ายังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก ที่อยากให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่กังวล ว่าจะถูกฟ้องกลับหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า ถ้าหากอนาคต สิ่งที่ตนเองร้องเรียนเป็นความจริง ตนเองก็จะโดนด่าอยู่ดีว่า ทำไมถึงไม่ช่วยเหลือ ทำไมไม่เป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน จากนี้คงต้องเพิ่มการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนให้มากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันก็ได้ตรวจสอบเข้มข้นอยู่แล้ว นายเอกภพ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้สังคมดีกว่านี้ ตนเองอยากจัดการบรรดาพวกเทวดา ที่ทำให้สังคมเละเทะ เรียกรับผลประโยชน์ ทุจริตคอร์รัปชัน ถ้าเป็นไปได้ตนเองอยากจัดการพวกเทวดามากกว่า