ยื่นฟ้องเพจปลอม แอบอ้างชื่อ “รมว.สธ.” ขายยาปลุกเซ็กซ์
วันที่ 25 ต.ค. 2567 เวลา 14:49 น.
ดร.ธนกฤต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าแจ้งความเอาผิดเพจปลอม แอบอ้างชื่อ และภาพถ่าย รมว.สาธารณสุข ใช้ประกอบโฆษณาชวนเชื่อ ขายยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชาย จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “รับรองจากกระทรวงสาธารณสุข-ยาโป๊ปปลุกอารมณ์ของผู้ชาย“ แอบอ้างชื่อของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาใช้ประกอบโฆษณาชวนเชื่อ ขายยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชาย ซึ่งในภาพมีการขึ้นข้อความด้วยอีกว่า "การวิจัยและพัฒนาล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข เริ่มเห็นผลทันที มีผลคงตัวและคงอยู่ยาวนาน" จนทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ขององค์กร และอาจทำให้ผู้บริโภคหลงเชื่อ ล่าสุดวันนี้ ( 25 ต.ค.67) นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกองกฏหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท เพื่อเอาผิดเพจเฟซบุ๊กปลอม หลังใช้รูปของ รมว.สธ. ชักชวนให้ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าประเภทยาปลุกเซ็กซ์ และอ้างว่าได้รับการรับรองจาก สธ. สามารถนำไปใช้และมีประสิทธิภาพที่ดี หลัง รมว.สธ. ทราบเรื่อง ได้สั่งการให้ฝ่ายกฏหมายไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งวันนี้ตนได้ประสาน พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท มารับเรื่องร้องเรียน เพื่อวางแผนในการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เบื้องต้นทราบแล้วว่าเป็นใคร และถือเป็นภัยร้ายแรง และไม่ทราบว่ายาดังกล่าวเป็นยาประเภทไหน ได้รับมาตรฐานตาม อย. หรือไม่ หากมีประชาชนหลงเชื่อซื้อไปบริโภค อาจส่งผลเสียต่อร่างกายถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงอยากฝากเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อ เพราะ สธ. ไม่เคยรับรองเรื่องของยาปลุกเซ็กซ์ หากใครพบเบาะแสหรือเคยทำการสั่งซื้อไปแล้ว สามารถส่งมาให้กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นำไปตรวจหาสารปนเปื้อนต่อไป ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจไซเบอร์จะรับเรื่อง ไปตรวจสอบตามกฎหมาย ซึ่งจากพฤติการณ์แล้วอาจเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และจะสืบสวนเพื่อล่อซื้อตัวอย่างยา และส่งตัวอย่างให้องค์การอาหารและยาหรือ อย. ตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบว่าเป็นยาที่ผิดกฎหมาย ผลิต หรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ยา ด้วย เบื้องต้นพบว่า เพจดังกล่าวนั้นได้ส่งกระจายสินค้าไปเกือบทั่วประเทศ มีผู้ซื้อมากกว่าหลักพันราย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์พอจะทราบแหล่งที่มาของเพจดังกล่าวแล้ว ยังพบอยู่ในประเทศไทยและคาดว่าจะเริ่ม Operation จับกุมเจ้าของเพจดังกล่าวได้ภายในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ยังพบหน่วยงานราชการหน่วยอื่น ๆ รวมถึงตำรวจ ที่ถูกปลอมเพจเพื่อรับแจ้งความร้องทุกข์หลอกลวงประชาชน ทางตำรวจไซเบอร์ยังคงตรวจสอบการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง และได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดี รวมทั้งประสานให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปิดเพจเหล่านั้นไปเยอะมากแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ก็จะประสานให้เร่งดำเนินการปิดเพจแอบอ้างกระทรวงสาธารณสุขเพจนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหยื่อมากกว่านี้และทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าหน่วยงานราชการรับรองสิ่งผิดกฎหมาย