1 ในทนายอเวนเจอร์โทรเรียก 7 ล้าน เลขาบอสอัดเสียงไว้ทั้งหมด

วันที่ 24 ต.ค. 2567 เวลา 18:22 น.

ใครกัน 1 ในทนายอเวนเจอร์โทรเรียก 7 ล้าน เลขาบอสอัดเสียงไว้ทั้งหมด บอสพอล ไฟเขียวแจ้งความแก๊งรีดทรัพย์ นักร้องเรียน พยานเก๊ แม่ข่ายเสียประโยชน์ตีเนียนเป็นผู้เสียหายโจมตีดิไอคอน วันนี้ (24 ต.ค.67) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุลหรือ บอสพอล นำหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดนักร้องเรียนสาว ก. รีดทรัพย์บอสพอล 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้นำเอกสารไปให้บอสพอลลงนามมอบอำนาจให้มาดำเนินคดีแจ้งความเอาผิดกับนักร้องเรียนสาว ก. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนรีดทรัพย์จะเข้าหรือไม่จะต้องคุยรายละเอียดกับทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่ 2 อยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับทางนานเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดบอสพอล และนำข้อมูลที่อ้างว่าบอสพอลมีการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งทางตำรวจได้มีการออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้ “ขณะนี้ทีมทนายได้รวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากทำให้บ.ดิไอคอนฯ เสื่อมเสียและหน่วยงานที่ถูกพาดพิงเสียหายไปด้วย ซึ่งบอสพอลยืนยันไม่รู้จักบุคคลดังกล่าว” ส่วนเรื่องที่ 3 บอสพอลก็มีการสั่งให้รวบรวมข้อมูล ในการดำเนินคดีกับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในทนายอเวนเจอร์ ซึ่งก่อนหน้าที่กลุ่มบอสดิไอคอนจะถูกจับกุม ทนายคนดังกล่าวโทรศัพท์มาหาบอสพอลเพื่อเจรจาต่อรอง ให้บอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับดิไอคอน แต่บอสพอลยังไม่ได้จ่ายให้ ซึ่งเลขาของบอสพอลได้บันทึกเสียงขณะเจรจาไว้ หากตนได้คลิปเสียงดังกล่าวจะดูความเหมาะสมแล้วจะเปิดเผยอีกครั้ง สำหรับเรื่องที่ 4 ทนายวิฑรูย์ กล่าวว่า จะรวบรวมรายชื่อแม่ข่ายที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย จากนั้นแม่ข่ายขัดผลประโยชน์กับบ.ดิไอคอนกรุ๊ป แต่ทำเนียนอ้างเป็นผู้เสียหาย โดยจะนำเอกสารรายชื่อมาให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบต่อไป ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีดิไอคอน เป็นคดีพิเศษในส่วนคดีฟอกเงิน  นายวิฑรูย์ บอกว่า มองเป็นเรื่องดี เพราะพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ทำงานหนักจนล้น ดีเอสไอ มาช่วยในคดีนี้ก็จะเป็นการแบ่งเบาพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ไปได้มาก ส่วนโทรศัพท์มือถือของพนักงานดิไอคอน ที่ถูกเชิญตัวมาให้ปากคำในฐานะพยาน และถูกยึดไปเมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 ล่าสุดได้รับคืนหมดแล้ว จึงจะไม่ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่