ทนายบอสพอล ตั้งหลักสู้กลับ เดินหน้าฟ้อง เตรียมเอาผิดตำรวจ

วันที่ 24 ต.ค. 2567 เวลา 07:10 น.

สนามข่าว 7 สี - ต้องใช้คำว่าเริ่มตั้งหลักสู้ได้แล้ว ทนายความของบอสพอล เดินหน้าเตรียมเอาผิดตำรวจ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากการยึดโทรศัพท์พยาน และสอบปากคำอย่างหนัก นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล พาพนักงานในเครือบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สน.พหลโยธิน ก่อนเผยว่า ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ เนื่องจากเห็นว่าการเข้าตรวจค้น 11 จุด และการสอบปากคำพยาน ของ ตำรวจ บก.ปคบ. เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา อาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเฉพาะการยึดเอาโทรศัพท์มือถือ และสอบปากคำนานกว่า 8 ชั่วโมง หนึ่งในพยานที่เข้าให้ปากคำ ยอมรับว่าถูกกดดันอย่างหนัก สอบปากคำตั้งแต่เที่ยง ถึง 2 ทุ่ม แล้วยังถูกยึดโทรศัพท์มือถือ บังคับไม่ให้ติดต่อบุคคลอื่น เว้นแต่จะเป็นการคุยแบบเปิดลำโพงให้ตำรวจนายอื่น ๆ ได้ยิน จนตัวเองร้องไห้หลายครั้งระหว่างการสอบปากคำ หลังลงบันทึกประจำวัน ก็ไปติดตามเอาโทรศัพท์ที่ยึดไปคืนให้พยานกลุ่มนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ ช่วงเที่ยงวันนี้ (24 ต.ค.) จะลองมาติดตามกับตำรวจที่ยึดหลักฐานไปตรวจสอบอีกที อีกเรื่องที่กลายเป็นประเด็นโซเชียลฯ กรณีเพจฯ เฟซบุ๊กดัง อย่างน้อย 2 เพจฯ โพสต์ข้อความระบุว่า ของกลางที่ DSI ยึดได้เมื่อวานนี้ เป็นของปลอม ทั้งนาฬิกาหรู และสร้อยคอทองคำ ทีมข่าวสอบถามเรี่องนี้กับ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดี DSI เปิดเผยว่า เป็นการเข้าตรวจสอบตามเบาะแสที่พลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นของแท้ หรือของปลอม ต้องยึดมาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ เพราะเป็นทรัพย์สินที่กลุ่มผู้กระทำผิดนำมาเก็บไว้ ตั้งแต่มีคดีดิไอคอนกรุ๊ป ก็มีคลิปภาพบุคคลจากหลายวงการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพจอีซ้อขยี้ข่าว เปิดตัวละครใหม่ เป็นตำรวจยศ พันตำรวจเอก ขึ้นเวทีดิไอคอนฯ คลิปบางช่วงจะเห็น นายตำรวจยศ พันตำรวจเอก เล่าสาธยายประวัติตัวเอง บอกว่า ให้ใจกับธุรกิจนี้ 100 % มีขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้อาชีพ และเหมือนจะพูดแซะว่า สิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เอาไปจากผมก็คือเวลา โอดครวญเรื่องเงินเดือน ขึ้นครั้งละ 200-400 บาท จึงต้องหาสิ่งมาตอบแทน โดยเพจฯ อีซ้อ ยังชี้เป้า "บอสโปลิศ…ชีวิตดี๊ดีที่ The icon เส้นทางความสำเร็จที่สำนักงานตำรวจให้ไม่ได้" วันนี้ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะเป็นคิวของผู้ต้องหาชายคดีดิไอคอนกรุ๊ป จะได้เจอญาติเป็นครั้งแรก หลังเข้าเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ให้ข้อมูลว่า การเข้าเยี่ยมจะแบ่งเวลาออกเป็น 16 รอบ ๆ ละ 20 นาที ผู้ที่เข้าเยี่ยมได้ต้องเป็นญาติ ถูกระบุชื่อไว้ให้เยี่ยมกับทางเรือนจำเท่านั้น และจะเยี่ยมได้ครั้งละไม่เกิน 3 คน หรือจะขอเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ก็ได้ เพียงแต่จะทำได้เพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น