บุกรวบ “แม่เสี่ยโป้” เปลี่ยนชื่อ ซ่อนตัว ในบ้านหรูย่าน พุทธมณฑลสาย 2

วันที่ 23 ต.ค. 2567 เวลา 15:06 น.

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกรวบ “แม่เสี่ยโป้” คาบ้านหรูย่าน พุทธมณฑลสาย 2 เปลี่ยนชื่อ แอบซ่อนตัว ตำรวจจับได้ยังปากแข็งแกล้งเป็นแม่บ้าน ปฏิเสธไม่เคยจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ร่วมกันจับกุม น.ส.บานเย็น  แม่เสี่ยโป้ อายุ 51 ปี และ น.ส.พฤกษชาติ  อายุ 31 ปี ภายในบ้าน (พุทธมณฑลสาย 2) แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ตรวจพบว่า บัญชี เฟซบุ๊กหนึ่ง ได้โฆษณา ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ จากการตรวจสอบเว็บไซต์พบว่าเป็นเว็บพนันออนไลน์ที่เปิดให้เล่น พนันทายผลฟุตบอล และเกมคาสิโนออนไลน์ประเภทต่าง ๆ เช่น บาคาร่า, ไพ่ป๊อกเด้ง, เกมไพ่ชนิดอื่นๆ, ตู้เกมสล็อต, ทายผลเกม เป็นต้น ซึ่งเปิดให้มีการเสี่ยงทายเล่นพนันได้เสียเงินจริง และยังพบเงินหมุนเวียนในบัญชีรับโอนเงินจำนวนมาก น.ส.บานเย็น แม่เสี่ยโป้ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เนื่องจาก เป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารที่ได้รับผลประโยชน์ จากบัญชีที่ใช้พักเงินเว็บพนันออนไลน์ข้างต้น ซึ่งเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว พบ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 31 คน แต่ละคนมีการแบ่งหน้าที่กันในการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากผู้เล่นพนัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดข้างต้น ทั้งหมด 31 คน โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานที่ ได้ใช้ มีไว้ หรือได้มาจากการกระทำผิดในคดีนี้ พร้อมจับกุมนายเสี่ยโป้ฯ และบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปกว่า 20 ราย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ต้องหาที่ไหวตัวทันและหลบหนีไป ต่อมา กก.1 บก.ป. ได้มอบหมายให้ ว่าที่ พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สว.กก.1 บก.ป. พร้อมพวกทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ เนื่องจากมีการกระทำความผิดที่มีลักษณะของเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ปัจจุบันยังมีกลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีอยู่จำนวน 4 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ จากการสืบสวนพบว่า น.ส.บานเย็น หนึ่งใน 4 ผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ในหมู่บ้านหรูย่านพุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ปกปิดตัวตนใช้นามสมมติว่า บุษบา อยู่อย่างเงียบๆ ภายในบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เข้าตรวจค้นบ้าน ตามหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ ค219/2567 ลงวันที่ 22 ต.ค.67 ได้พบบุคคลที่มีตำหนิรูปพรรณคล้าย น.ส.บานเย็น  กำลังปีนรั้วหลังบ้านเพื่อหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังปิดล้อมไว้ทั้งหมด จึงปีนกลับเข้าไปซ่อนตัวในบ้าน เจ้าหน้าที่ตามเข้าไปจับกุมตัว แต่บุคคลดังกล่าวอ้างว่า ตนชื่อ บุษบา เป็นแม่บ้าน จึงได้ซักถามปากคำจนจำนนด้วยหลักฐาน ยอมรับว่า คือ น.ส.บานเย็น ผู้ต้องหาตามหมายจับ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นโดยละเอียด พบหญิงที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลในหมายจับอีก 1 คน คือ น.ส. พฤษชาติ  อายุ 31 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง ที่ 61/25630 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2563  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "จัดให้มีการเล่นพนันทายผลฟุตบอลฯ, เป็นเจ้าบ้านจัดให้มีการเล่นพนันฯ” จึงได้แสดงหมายจับ และควบคุมตัวทั้ง 2 คน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และแจ้งว่า “ยอดเงินที่ตนรับโอนมาจากบัญชีเว็บพนันฯ นั้น ตนเป็นเพียงผู้เล่นเท่านั้น ไม่เคยจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์แต่อย่างใด และ ไม่เคยให้บุคคลใดไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับตน