2 คดีอุ้มชาวจีนเรียกทรัพย์ เป็นคนละเครือข่าย

วันที่ 23 ต.ค. 2567 เวลา 11:07 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ความคืบหน้าคดีคนร้ายอุ้มชาวจีนไปเรียกเงิน 2 คดี ตำรวจยังคงแกะรอยติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี ยังไม่สรุปว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ทั้ง 2 คดีนี้ เป็นคนละเครือข่ายกัน พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าของทั้ง 2 คดี คือ คดีที่คนร้าย 6 คน ร่วมกันปล้นทรัพย์ชาวจีน ได้เงินไปกว่า 12 ล้านบาท ยืนยันตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน เป็นสามี-ภรรยา ที่รู้ไส้รู้พุงอดีตสามี จึงวางแผนปล้นทรัพย์ และเดิมก็ตั้งใจจะเอาเงินจาก "นายไมเคิล" ไปอีกคน แต่ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงไม่ได้เงินส่วนนี้ไป เท่าที่มีเบาะแสตอนนี้ มี 1 คน หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว เหลือชาวเมียนมาอีก 3 คน ที่ยังหลบหนี ยังไม่ชัดเจนว่าออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่ ยังติดตามจับกุมกันอยู่ ส่วนคดีที่ 2 คดีอุ้มนักศึกษาชาวจีนไปเรียกค่าไถ่ 3 แสนหยวน คิดเป็นเงินไทยกว่า 1.5 ล้านบาท ที่สุดท้ายกลุ่มนักศึกษาได้ต่อรองจนเหลือ 1 แสนหยวน คิดเป็นเงินไทย 4.7 แสนบาท แล้วถูกปล่อยตัวออกมา จนตำรวจตามไปช่วยเหลือในป่าแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 6 ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เชื่อว่าคดีนี้คนร้ายทำเป็นขบวนการ มีคนไทยร่วมมือด้วย โดยเฉพาะคนที่ขับรถกระบะมารับนักศึกษาทั้ง 3 คน ชุดสืบสวนได้ประสานตำรวจภูธรภาค 6 ติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ส่วนกระแสข่าวที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทั้ง 2 คดี คนร้ายเป็นคนจีนอุ้มจีน อาจมีข้าราชการตำรวจอยู่เบื้องหลัง ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะคดีที่ สน.สุทธิสาร เป็นเรื่องความแค้นส่วนตัวของอดีตภรรยา ส่วนที่ สน.ธรรมศาลา เป็นแก๊งอาชญากรกลุ่มเล็ก ที่หลอกผู้เสียหายไปเรียกค่าไถ่ ยังไม่พบมีความเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด