ความเคลื่อนไหวหาเสียงเลือกตั้งสหรัฐฯ

วันที่ 22 ต.ค. 2567 เวลา 18:01 น.

คอมมาลา แฮร์ริส และ โดนัลด์ ทรัมป์ 2 ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่างเร่งหาเสียงในรัฐสมรภูมิอย่างเต็มที่ นางคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต และ ลิซ เชนีย์ อดีต สส.จากพรรครีพับลิกัน รณรงค์หาเสียงร่วมกัน ที่รัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิ โดย แฮร์ริสชี้ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีฯ เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย เพราะเป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้ ส่วน ลิซ ลูกสาวของ ดิค เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดียุคประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ช่วยดึงคะแนนกลุ่มผู้หญิงอนุรักษ์นิยม ที่ต่อต้านนโยบายการทำแท้งถูกกฎหมาย และทำให้ แฮร์ริส อ้างได้ว่า พร้อมเลือกคนต่างพรรคมาร่วมงาน หากเป็นประโยชน์ต่อการบริหารประเทศ ส่วน โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เข้าร่วมการประชุมผู้นำศาสนาและหาเสียงที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา โดยอ้างว่า ตนรอดชีวิตจากการถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า ด้วยจุดประสงค์คือการทำให้ประเทศสหรัฐฯ ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยเป็นมา อดีตประธาน กกต.สหรัฐฯ มองว่า กรณีที่ นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก สัญญาว่าจะมอบเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐในแต่ละวัน แบบสุ่มเลือก ให้กับผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ ซึ่งร่วมลงนามคำร้องออนไลน์ว่า จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพการพูดแสดงความเห็นและการครอบครองอาวุธปืน ซึ่งเป็นนโยบายของพรรครีพับลิกัน อาจไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่การซื้อเสียงให้ลงคะแนนเลือกตั้ง แม้ในอดีตคนผิวสีจะสนับสนุนพรรคเดโมแครตในอัตราที่สูงมาก แต่สำหรับน างคอมมาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ชายผิวสีหลายคนบอกว่า ไม่จำเป็นจะต้องเลือก แฮร์ริส เสมอไป แต่จะดูนโยบายเป็นหลัก แฮร์ริส จึงต้องชูนโยบายดึงคะแนนเสียงจากชายผิวสี โดยเน้นสินเชื่อผู้ประกอบการผิวสีรายย่อย และจะทำให้ธุรกิจกัญชาเพื่อความบันเทิงถูกกฎหมาย