เครือข่าย ดิไอคอนกรุ๊ป ขอความเป็นธรรม

วันที่ 22 ต.ค. 2567 เวลา 11:32 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ขณะที่ในแต่ละวันตัวเลขผู้เสียหายก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในมุมกลับกันทางฝั่งของเครือข่าย "ดิไอคอนกรุ๊ป" ก็มีการตั้งเป้ารวบรวม 10,000 รายชื่อ เพื่อจะไปเรียกร้องขอความเป็นธรรม เครือข่าย ดิไอคอนกรุ๊ป ขอความเป็นธรรม เป็นข้อความที่บรรดาเครือข่าย "ดิไอคอนกรุ๊ป" ส่งเข้าไปในกลุ่มไลน์ เพื่อรวบรวมรายชื่อของสมาชิกที่เชื่อมั่นว่าการประกอบธุรกิจดิไอคอน ถูกต้องตามกฎหมาย พยายามรวบรวมให้ได้ 10,000 รายชื่อ ก่อนจะไปยื่นต่อ "คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน" และ "กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ" เนื้อหาสำคัญในหน้าแรก เป็นการยืนยันให้เห็นว่า พวกตนประกอบธุรกิจนี้โดยสุจริต แต่กลับตกเป็นเป้าโจมตีของสังคม และสื่อโซเชียลฯ ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวง บังคับซื้อสินค้า เป็นแชร์ลูกโซ่ จนกระทบต่อการซื้อขายสินค้าหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนแผ่นที่ 2 พูดถึงเรื่องการถูกชี้นำให้กลายเป็นผู้ต้องหา เรื่องที่มีผู้เสียหายเทียมชักจูงให้ไปแจ้งความ ถูกชี้นำด้วยคำถามบิดเบือนความจริง จนไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้กับ "ผบ.ตร." ที่ไปประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันว่าตำรวจทำคดีตามพยานหลักฐาน ผู้เสียหายทุกคนที่สอบสวน แนะนำให้นำหลักฐาน ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงมาแจ้งความ ประเด็นการสอบสวน เป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงตามปกติ ไม่ใช่การชี้นำแต่อย่างใด ขณะที่วันนี้ตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำหมายศาลฯ เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอีก 11 จุด เป็นบ้านของพนักงาน และบุคคลใกล้ชิด ไม่ใช่บ้านของภรรยาผู้ต้องหา หรือแม่ข่าย เป็นเพียงการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี อีกประเด็นที่วันนี้หลายคนจับตามอง เรื่องดรามาเงิน 10 ล้านบาท ที่ต่อมา "พัช กฤษอนงค์ต้านโกง" ออกมาบอกว่าจะชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้กับสังคม คุณอภิเอก ผู้สื่อข่าวได้คุยกับ "พัช" เบื้องต้นยืนยันว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนเอง เป็นการไกล่เกลี่ยทวงความเป็นธรรมให้ผู้เสียหาย 89 คน ซึ่งตัวแทนจาก "ดิไอคอนกรุ๊ป" ได้คืนเงินให้ 8.5 ล้านบาท กับผู้เสียหายโดยตรง ไม่ได้ผ่านตนเอง อีกประเด็นที่น่าสนใจ "พัช" บอกกับผู้สื่อข่าว ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยให้คำปรึกษากับ "บอสพอล" จริง แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากที่มีผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือ จึงพยายามชี้ให้อีกฝ่ายเห็นต้นตอของปัญหา และชี้ 18 ข้อ ให้แก้ไข แต่พอไม่แก้ไขตามแนะนำ จึงเกิดเหตุการณ์ที่มีผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความขึ้น สนธิญา ท้าสาบานไม่รู้จัก ดิไอคอนกรุ๊ป นายสนธิญา สวัสดี นำรูปหล่อของพระพุทธรูปปางไพรีพินาศพิชิตมาร อายุ 150 ปี ท้าวเวสสุวรรณ นางพญา และ เหรียญรัชกาลที่ 9 ที่ติดตัวตลอด มาท้าสาบานว่า ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเกี่ยวข้อง ไม่มีคนที่รู้จัก เป็นสมาชิก ดิไอคอนกรุ๊ป และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ดิไอคอนกรุ๊ปขายอะไร เพิ่งรู้เมื่อช่วงที่มีข่าวดัง หากทั้งหมดกล่าวเป็นการเท็จ ให้ชีวิตครอบครัววินาศฉิบหาย วัดดังยกเลิกกฐิน บอสพอล รื้อป้ายทิ้ง ล่าสุดวัดกระพงสุรินทร์พระอารามหลวงในจังหวัดตรังที่ บอสพอล ผู้บริหารบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ได้จองการทอดกฐินพระราชทานไว้ และมีการยกเลิกไปนั้น ล่าสุด ได้รื้อป้ายโฆษณาบอกบุญการทอดกฐินออก โดยมีฆราวาสและพุทธบริษัท ได้จองเป็นเจ้าภาพทอดกฐินแทนแล้ว ด้านพระราชวรากร เจ้าคณะจังหวัดตรัง ที่จำวัดกะพังสุรินทร์ บอกว่า "หน้าที่ของการทอดกฐินนั้น เป็นหน้าที่ของฆราวาสหรือพุทธบริษัทในส่วนของกฐินพระราชทานของจังหวัดตรัง ที่จะมาทอดที่พระอารามหลวง พบว่า เจ้าภาพที่จองกฐินไว้ได้ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ ยืนยันว่า พระอารามหลวงต้องมีเจ้าภาพมาทอดอย่างแน่นอน เพราะเป็นเรื่องของฆราวาสและพุทธบริษัท" โดยวัด ได้มีเจ้าภาพกฐินที่ทอดวัดแทนแล้ว จึงไม่มีปัญหาหรือกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางศาสนาแต่อย่างใด ตรวจสอบพื้นที่ ไร่เชิญตะวัน วันที่ 2  ติดตามความต่อเนื่องในการตรวจสอบไร่เชิญตะวันที่เชียงราย ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปใช้เครื่องจับจุดพิกัด เข้าตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว โดยเช้านี้ เจ้าหน้าที่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังคงเดินหน้าตรวจสอบแนวเขตของศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ของ ว.วชิรเมธี ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังจากเริ่มทำการตรวจสอบมาตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ โดยในวันนี้จะเข้าไปใช้เครื่องจับจุดพิกัด ของจุดแต่ละจุดตามแนวเขตอีกครั้ง ว่าการใช้ประโยชน์จากที่ดินได้เกินกว่าที่ขออนุญาตไว้หรือไม่ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย บอกว่า เจ้าหน้าได้ดำเนินการไปแล้วและได้ข้อมูลมาระดับหนึ่ง แต่เป็นข้อมูลดิบซึ่งต้องนำมาวิเคราะห์อีกครั้ง จากนั้นจึงจะได้เข้าไปตรวจสอบความถูกต้อง ผอ. ยังบอกอีกว่า ส่วนอ่างเก็บน้ำที่เห็นเป็นอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทาน ซึ่งกรมชลประทานได้ขออนุญาตใช้ที่ดินป่าสงวนไปแล้ว สำหรับการตรวจสอบจะเสร็จสิ้นต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนก่อน ซึ่งการตรวจสอบและสรุปทั้งหมดต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่จะเร่งทำแน่นอน กมธ.การสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ตรวจที่ดิน ไร่เชิญตะวัน-กันต์ ขณะที่ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา จะหยิบข้อมูลการใช้ที่ดินของศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับ เพื่อดูว่ามีข้อมูลส่วนใดจะสามารถส่งต่อไปยังหน่วยงาน หรือ กรรมาธิการชุดอื่น ร่วมกันตรวจสอบ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการใช้พื้นที่บุกรุกป่าสงวนนั้น ต้องรอให้ทางกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบให้แล้วเสร็จก่อน แต่ยืนยันกรรมาธิการฯ จะตรวจสอบอย่างเต็มที่ คู่ขนานกับฝ่ายกฎหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับที่ดินของ นายกันต์ กันตถาวร หรือ บอสกันต์ ที่อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ประกาศขาย ในราคา 40 ล้านบาท ทั้งที่ซื้อมาเพียงแค่ 2 ล้านกว่าบาท