คนร้ายเจาะตู้เซฟฉกเงิน 6.5 ล้าน กล้องจงจรปิดเสีย เจ้าอาวาสปิดข่าว ขออยู่เงียบๆ

วันที่ 22 ต.ค. 2567 เวลา 11:00 น.

คนร้ายปีนกุฏิเจาะตู้เซฟกวาดเงิน 6.5 ล้านบาทหนี กล้องจงจรปิดเสีย เจ้าอาวาสปิดข่าว ชาวบ้านแฉไม่ใช่เงินวัด แต่เป็นเงินส่วนตัวเจ้าอาวาสจากการเล่นหวย จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ”อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” ได้โพสต์ภาพพร้อมกับระบุข้อความว่า ”มีคนร้ายบุกเจาะตู้เชฟวัดแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ กวาดเงินสดในเซฟไปร่วมกว่า 6.5 ล้าน แถมวัดอ้างว่ากล้องวงจรปิดเสีย แถมยังสั่งทุกคนให้ช่วยกันปิดข่าว ห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะไม่ต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่โต” ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบและสอบถามทราบว่าเป็นวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยบริเวณที่เกิดเหตุเป็นกุฏิหลังเก่าของเจ้าอาวาสวัด อายุ 70 ปี 40 พรรษา ภายในกุฏิติดกล้องวงจรปิดทุกมุม แต่อ้างใช้การไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบเมื่อเช้าวันที่ 20 ต.ค. 67 เวลา 07.30 น. และได้กั้นพื้นที่เกิดเหตุห้ามให้ใครเข้าไป โดยบรรยากาศรอบวัดเงียบสงบ พร้อมกันนี้ยังญาติโยมต่างพากันมาถวายภัตตาหารปัจจัยบ้าง แต่ไม่มากนัก ขณะที่กฏิหลังใหม่ได้ติดป้ายว่า "หลวงพ่อไม่อยู่" พอสอบถามลูกศิษย์ในวัดทราบว่าเจ้าอาวาสอยู่ที่กุฏิหลังใหม่ที่ศาลาติดกัน ก่อนพบกับเจ้าอาวาสกำลังนั่งพูดคุยกับโยมที่เดินทางมาถวายสังฆทานปัจจัย และปฏิเสธการให้ข่าวใด ๆ บอกว่าอยากอยู่เงียบ ๆ สำหรับเหตุคาดว่าเกิดขึ้นช่วงกลางดึกของวันที่ 17 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้ปีนเข้ามาทางหน้าต่างกุฏิ แล้วใช้อุปกรณ์เจาะตู้เซฟ ก่อนขโมยเงินประมาณ 6.5 ล้านบาท จากการสอบถามพระลูกวัดรูปหนึ่ง บอกว่าวันที่ 18 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ได้เข้าไปทำความสะอาด แล้วเห็นตู้เซฟถูกเจาะ ซึ่งตู้เซฟอยู่ภายในห้องนอน  ก่อนแจ้งเจ้าอาวาสให้ทราบ ว่าเซฟถูกงัด ส่วนกล้องวงจรปิดนั้นเสีย หลวงพ่อก็เลยถอดปลั๊กออก เพื่อจะได้ประหยัดไฟ ในส่วนของเงินที่อยู่ในเซฟนั้นประมาณ 6.5 ล้านบาทได้หายไปจริง ซึ่งคนร้ายได้เข้ามาทางหน้าต่างกุฏิ ด้าน พ.ต.ท.ถนัดติ นานพ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โชคนาสาม ได้มาตรวจสอบและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตู้เซฟดังกล่าวเป็นเหล็กก่อปูนภายใน มีความสูงประมาณ 2 เมตร และมีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม ช่วงกลางตู้เซฟพบว่ามีการทุบเจาะทำลายเป็นช่อง ซึ่งได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาดีเอ็นเอ และรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย พร้อมได้เก็บดีเอ็นเอคนที่อยู่ในวัดและผู้ใกล้ชิด ส่งตรวจที่ภาค 3 เพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม มีชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับวัด และรู้จักเจ้าอาวาสเป็นอย่างดี แจ้งมาทางผู้สื่อข่าวและส่งข้อความแช็ตไลน์มาบอกว่า เงินที่ถูกขโมยไปไม่ใช่เงินของวัดแต่อย่างใด แต่เป็นเงินของเจ้าอาวาสเอง ที่ไม่อยากเป็นข่าว เพราะกลัวเขาจะสืบค้นที่มาของเงินจำนวนมาก ว่าได้มาอย่างไร เพราะเจ้าอาวาสชอบเล่นหวย แทงหวยคราวละมาก ๆ เป็นแสนยังมี เคยถูกหวยได้รับเงินเป็นล้านบาทก็มี และหมดไปกับการเล่นหวยก็เยอะเช่นกัน ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ เผยว่า ได้ลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับพนักงานสอบสวนและกองพิสูจน์หลักฐานติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเงินจำนวนมากขนาดนี้ ใครบ้างที่รู้ความเคลื่อนไหวของเงิน การเก็บเงินของหลวงพ่อ และทุบเจาะดังขนาดนั้น ทำไมไม่มีใครได้ยินเสียง แต่ตอนนี้รอผลจากภาค 3 รายงานแจ้งเข้ามาอีกครั้ง เกี่ยวกับดีเอ็นเอและรอยนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ