จ่อเอาผิดคดีฟอกเงิน และอั้งยี่ซ่องโจร

วันที่ 20 ต.ค. 2567 เวลา 16:40 น.

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตามกันต่อเนื่องความเคลื่อนไหวคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป วันนี้ ตำรวจ บก.ปคบ. อายัดรถ บอสพอล บอสกันต์ เพิ่มอีก 4 คัน ด้านภรรยาบอสกันต์ เป็นบุคคลเฝ้าระวังของตำรวจ หลังมีกระแสข่าวว่าหนีออกนอกประเทศ จ่อเอาผิดคดีฟอกเงิน และอั้งยี่ซ่องโจร พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยัน กรณีผู้ต้องหา 2 เครือข่าย ดิ ไอคอน กรุ๊ป ว่า มีแน่นอน ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกผู้ต้องหาล็อตใหม่กลุ่มแม่ข่ายที่มีสมาชิกเยอะ ๆ และกลุ่มพนักงานของบริษัทบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงนามในเอกสารที่มีผลทางกฎหมาย ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ 18 บอส ดิ ไอคอน กรุ๊ป ตำรวจเตรียมแจ้งมีข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาอั้งยี่และซ่องโจร ซึ่งแจ้งเมื่อไรก็ได้ อาจจะเข้าไปแจ้งข้อหาในเรือนจำก็ได้ ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือระยะเวลาในการขออำนาจศาลฝากขัง เพราะก่อนหน้านี้ตำรวจแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี มีอำนาจฝากขังได้เพียง 4 ผัด (ผัดละ 12 วัน) พนักงานสอบสวนจึงต้องเร่งทำคดีให้ทัน และมีแนวโน้มว่าข้อหาร่วมกันฟอกเงิน อาจจะต้องแยกออกมาเป็นอีกคดี เพราะต้องใช้เวลาตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด บก.ปคบ.อายัดรถ บอสพอล-บอสกันต์ เพิ่ม 4 คัน ส่วนวันนี้ ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. อายัดรถตู้ บอสพอล 3 คัน และ บอสกันต์ อีก 1 คัน ซึ่งเป็นรถที่บอสพอลให้เป็นของขวัญวันเกิดบอสกันต์ ก่อนตกเป็นผู้ต้องหาเพียงไม่กี่เดือน โดยรถทั้งหมดตำรวจนำมาจอดไว้ที่หน้าตึกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อรอการตรวจสอบ ภรรยา “บอสกันต์” เป็นบุคคลเฝ้าระวัง ด้าน ภรรยาบอสกันต์ ที่ในโซเชียลระบุว่าหลบหนีออกนอกประเทศ ทีมข่าว 7HD คุณอภิเอก สอบถามแหล่งข่าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 บก.ปคบ. ลงข้อมูลในระบบให้ภรรยาบอสกันต์ เป็นบุคคลเฝ้าระวัง ป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ หากว่าใครมีหมายจับ หรือถูกจับตาเป็น Watch List เวลาเดินทางผ่านด่าน ตม. ชายแดน หรือทางสนามบิน ก็จะขึ้นข้อมูลแล้วตำรวจก็จับกุมทันที ขณะเดียวกันเพจฯ ดัง ก็เปิดเผยชื่ออีก 1 คน ที่อยู่เบื้องหลังคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป และปัจจุบันเป็นทนายความ นามสมมติว่า ทนายแบรนด์เนมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งต้องรอติดตามข้อเท็จจริงจากตำรวจ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกชุด เปิดเผยว่าจริง ๆ แล้วคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป มีคนอยู่เบื้องหลัง เพราะลำพังบอสพอลที่เคยพักอาศัยที่ชุมชนแออัด ย่านคลองเตย แต่พลิกชีวิตจากดินสู่ดาวจนมาถึงทุกวันนี้เพราะมีช่วงชีวิตหนึ่งได้รู้จักกับ บิ๊กบอส ป.อ. เป็นนักการเมืองที่ชุบเลี้ยง นายวรัตน์พล หรือ บอสพอล ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ก่อนแนะนำ บอสพอล เรียนรู้การตลาดออนไลน์จาก “ครูปัน” ครูด้านการตลาดที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ ก่อนสร้างอาณาจักร ดิไอคอน แล้วเปลี่ยนสถานะจากครู-ลูกศิษย์มาเป็น “บอสปัน” สุดท้ายมาวันนี้ทั้งคู่ต้องมาร่วมสถานะเดียวกัน คือ “ผู้ต้องหา” พระอาจารย์ “ว.วชิรเมธี” อยู่รับกฐิน ยังไม่กลับไทย ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าเหตุใด พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ถึงยังจำวัดอยู่ที่ญี่ปุ่น ไม่กลับไทยเสียที เรื่องนี้ทีมข่าวสอบถามไปยัง นาย อินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ชี้แจงว่า พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ได้เดินทางไปเข้าพรรษา เพื่อจำวัดไทยในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นวัดที่พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ได้สร้างขึ้น เพราะที่ญี่ปุ่นก็มีคนไทยย้ายไปอยู่จำนวนมาก ซึ่งตามหลักปฏิบัติแล้ว หลังออกพรรษา ก่อนจะครบ 1 เดือน ทุกวัดสามารถให้ญาติโยมเข้ามาทำกฐินได้ปีละ 1 ครั้ง เช่นเดียวกับพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ที่ยังอยู่ญี่ปุ่นเพื่อรับกฐิน ตามหลักปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา โดยล่าสุด ยังไม่มีข้อมูลว่า พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี จะเริ่มพิธีทอดกฐินในวัดไทยที่ญี่ปุ่นวันไหน แต่คาดว่าหากเสร็จแล้วคงจะเดินทางกลับทันที ส่วนภาพที่สื่อต่าง ๆ แชร์ลงสังคมออนไลน์ ล้วนแต่เป็นภาพเก่าที่ถูกส่งต่อลงเพจฯ และวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่ไม่ใช่ความจริงในปัจจุบัน