ทนายอนันต์ชัยมอง ท่าน ว. ไร้เจตนา ถ้าผิด ดิไอคอนทุกคนผิดหมด

วันที่ 20 ต.ค. 2567 เวลา 14:00 น.

ถ้ารู้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ก็คงไม่เทศน์ ทนายอนันต์ชัยมอง ท่าน ว. ไร้เจตนา ไม่ผิดอาญา-พระธรรมวินัย ไกลเกินไปโยงตัวการร่วม ชี้ถ้าท่าน ว. ผิด ดิไอคอนทุกคนผิดหมด ปรามอย่าด่วนจาบจ้วง ขอให้พิสูจน์ตนเองก่อนสรุปว่าผิด-ถูก ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม แสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีท่าน ว. วชิรเมธี กับ The iCon Group โดยระบุว่า ที่ผ่านมาไม่แสดงความเห็นเพราะมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องขององค์กรส่วนรวมของพระพุทธศาสนา แต่ตอนนี้เห็นว่าเรื่องกำลังเลยเถิด มีการแจ้งความดำเนินคดีกับท่าน ว.วชิรเมธี ซึ่งถูกสาธารณชนและบุคคลต่่างๆ ออกมาโจมตีบริภาษอย่างหนักซึ่งหากลุกลามไปอาจเสียหายต่อภาพลักษณ์พระพุทธศาสนาในวงกว้าง เพราะท่านเป็นพระนักวิชาการที่มีชื่อ “ในแง่มุมนักกฎหมายดูเจตนาเป็นหลัก ว่าขณะนั้นท่าน ว.รู้หรือไม่ว่าดิไอคอนกรุ๊ป เป็นธุรกิจขายตรงที่ไม่ขออนุญาตจาก สคบ. หรือเป็นแชร์ลูกโซ่ ถ้าท่าน ว. รู้ ไม่ได้ผิดแค่กฎหมายอาญา ผิดพระธรรมวินัยด้วย แต่ ณ เวลานั้น ท่าน ว.ได้รับการนิมนต์ไปเทศน์ให้ขวัญกำลังใจกับพนักงาน ไม่มีเจตนานโฆษณาชวนเชื่อให้คนมาลงทุน การเทศน์ของท่านเป็นเทคนิคโน้มน้าวให้คนมีกำลังใจ ถ้าท่านรู้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ก็คงไม่ทำ คนไม่มีเจตนาก็คือไม่ผิด การไปกล่าววหาว่าเป็นตัวการร่วมหรือสนับสนุนจึงไกลมากที่จะไปเอาความผิด ทั้งนี้กฎหมายอาญาและพระธรรมวินัย ต่างจากคดีแพ่ง เพราะในทางแพ่งแค่ประมาทเลินเล่อก็ผิด” ทนายอนันต์ชัย ระบุ ทนายอนันต์ชัย ระบุด้วยว่า ถ้าท่าน ว. ผิด ทุกคนผิดหมด ตั้งแต่เริ่ม บ.ดิไอคอน มีการโฆษณาด้วยศิลปิน ต้องผิดทั้งหมด ไม่ใช่แค่ 3 บอสดารา แต่คนอื่นไม่มีเจตนา เขาเป็นแค่พรีเซนเตอร์ ตนออกมาให้ข้อมูลที่เป็นข้อพระธรรมวินัย ข้อกฎหมายสงฆ์และกฎหมายบ้านเมือง ตัดสินกันด้วยข้อเท็จจริง การทำคดี อย่าเอาความสะใจเป็นหลัก ต้องเอาความจริงและเจตนา คดีอาญาศาลจะพิพากษาลงโทษกันด้วยเจตนา และพยานแวดล้อม เทปที่ถูกขุดออกมาก็เกิดขึ้นหลายปีมาแล้ว ในส่วนของท่าน ว.วชิรเมธี ปัจจุบันถือว่าท่านยังไม่มีความผิด ส่วนจะละเมิดพระธรรมวินัยขัอใดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งตามข้อเท็จจริงที่จะปรากฎในอนาคต ดังนั้นการแสดงความเห็นและกล่าวถึงท่าน ว.วชิรเมธี หรือพระสงฆ์รูปใด ๆ ที่ยังถือครองเพศบรรพชิตอยู่ ชาวพุทธเราควรระมัดระวังและว่ากล่าวโดยอรรถโดยธรรมด้วยถ้อยคำสุภาพในฐานเป็นพุทธบริษัทร่วมกัน และขอให้ท่านได้พิสูจน์ตนเองก่อนที่จะสรุปว่า ผิดหรือถูกอย่างไร ท้ายที่สุดหากเป็นความบกพร่องพลาดพลั้งของท่านเองในเรื่องกฎหมายหรือพระธรรมวินัยที่ขาดเจตนาอันไม่เป็นความผิดแล้ว ก็ควรอดโทษในส่วนนั้น ๆ ตามความเหมาะสมและควรให้อภัยท่าน ว.วชิรเมธี ด้วยเมตตาธรรมระหว่างกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านได้กลับทำงานจรรโลงพระพุทธศาสนาต่อไป