รวบคนขับกระบะขนแรงงานเถื่อนอัดกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจดับ 3 คน

วันที่ 19 ต.ค. 2567 เวลา 10:36 น.

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบ 2 ผู้ต้องหาลักลอบขนแรงงานเถื่อนอัดแน่นกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจ โยนร่างทิ้งสวนยางพารา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ , กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม , สถานีตำรวจภูธรหลังสวน , กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชุมพร ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ นายพิทักษ์ อายุ 30 ปี และนายเสกสรร อายุ 21 ปี โดยกล่าวหาว่า กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,ร่วมกันให้ที่พักอาศัย ช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาญาจัการโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นการจับกุม สามารถจับกุมตัวได้ที่  ถนนเพชรเกษม ทล.4 (ขาเข้า กทม.) กม.187+500 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พฤติการณ์ด้วยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2567 เวลาประมาณ 11.30 น. สภ.หลังสวน รับแจ้งเหตุว่าพบ กลุ่มบุคคลหมดสติบริเวณป่าละเมาใกล้กับวัดแห่งหนึ่ง ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า เป็นกลุ่มชาวเมียนมา 26 คน นั่งอยู่บริเวณป่าละเมาะ บางรายมีอาการนอนแน่นิ่ง จึงเข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ภายหลังทราบว่าเสียชีวิตทั้งหมด 3 คน แพทย์ผู้ชันสูตร เบื้องต้นให้รายละเอียดว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจากการขาดอากาศหายใจ จากการตรวจสอบบุคคลทั้งหมด พบว่าไม่มีเอกสารการเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด ทราบว่า เดินทางมาจาก รัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา จะไปประเทศมาเลเซีย  มาทั้งหมด 26 คน เป็นหญิง 5 คน ชาย 21  ผ่านทางช่องทางธรรมชาติติดกับ อ.แม่สอด จ.ตาก และเดินทางเปลี่ยนยานพาหนะมาประมาณ 3 รอบ ก่อนเกิดเหตุ คนขับรถ เห็นว่า ผู้โดยสารอาการไม่ดี เลยเอาตัวแรงงานลงจากรถไว้บริเวณจุดที่เจ้าหน้าที่ไปพบ ต่อมาในวันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี ได้สกัดจับรถกระบะตู้ทึบทั้ง 2 คันที่ต้องสงสัยขนแรงงานเถื่อน และได้เชิญ ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนมาทำการซักถาม และได้ขอศาลจังหวัดหลังสวนอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จากการสอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ยอมรับว่าเป็นคนขับรถนำพาแรงงานมาจริง รับมาจากเขตพื้นที่นิมิตรใหม่ จ.กรุงเทพฯ เพื่อไปส่งที่พื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยแบ่งหน้าที่กัน นายพิทักษ์ จะทำหน้าที่ขับรถกระบะตู้ทึบ ทะเบียนจังหวัดสมุทรสงคราม บรรทุกแรงงาน ส่วนนายเสกสรร จะทำหน้าที่ขับนำดูต้นทางให้ เพื่อคอยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้งสองยังได้รับอีกว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนในกลุ่มที่ขับรถบรรทุกขนส่งของด้วยกันชักชวนมาทำงานขนแรงงาน เพราะรายได้ดีมาก หากทำงานส่งคนสำเร็จจะได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 100,000 บาท โดยหากตกลงรับงาน จะมีกลุ่มขบวนการใช้หมายเลขปริศนาโทรมานัดแนะจุด ที่ให้ไปรับแรงงาน และจุดที่จะไปส่งแรงงานลงไว้ โดยรับจ้างขนแรงงานมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7-8 ครั้ง ได้รับค่าจ้างขนครั้งละ 70,000-100,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนแรงงาน โดยจะไปรับคนจากพื้นที่ กทม.และปริมณทล ไปส่งยังพื้นที่ภาคใต้