ดีเอสไอลุยค้นสำนักงานใช้เก็บข้อมูลฐานลูกค้าดิไอคอนกรุ๊ป

วันที่ 17 ต.ค. 2567 เวลา 17:34 น.

ดีเอสไอลุยค้นสำนักงานใช้เก็บข้อมูลระบบคราวน์ ฐานลูกค้าดิไอคอนกรุ๊ป พบขนย้าย ทำลายข้อมูลบางส่วน เร่งหาหลักฐานความเชื่อมโยงเเม่ข่าย วันนี้ (17 ต.ค.67) ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังนำกำลังเข้าตรวจค้นพยานหลักฐานการกระทำความผิดของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป จุดที่ 2 ซึ่งเป็นบริษัทที่ 1 ในผู้บริหาร ใช้เก็บข้อมูลลูกค้าต่าง ๆ เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า มีการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการของดิไอคอนกรุ๊ป ทราบว่าระบบหลังบ้านที่จะมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงการกระทำผิดในเรื่องนี้ มีโปรแกรมเมอร์คือนายจิระวัฒน์ หรือบอสแลป ผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งถูกตำรวจจับกุมไปแล้วเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.67) ซึ่งข้อมูลที่ต้องการคือ เซิร์ฟเวอร์ที่เป็นระบบหลังบ้านและโปรแกรมอิเลกทรอนิกส์ต่าง ๆ จึงขอหมายศาลเข้าตรวจค้นร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ “อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น พื้นที่ชั้น 2 และ 3 เป็นที่ทำงานของโปรแกรมเมอร์และทีมงาน ระบบหลังบ้านของบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป ซึ่งจะเชื่อมข้อมูลเหล่านี้กับอาคารสำนักงานจุดแรกที่เข้าตรวจค้น บริษัทแห่งนี้ได้เก็บข้อมูลสำคัญทุกอย่างที่เกี่ยวกับหลังบ้านเอาไว้ เช่น แผนการตลาด การเทรด ซึ่งต้องนำหลักฐานที่ได้ไปพิสูจน์กับนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง” ร.ต.อ.วิษณุ เปิดเผยด้วยว่าก่อนหน้านี้ข้อมูลบางส่วนถูกขนย้ายออกไป แต่ยังมีข้อมูลบางส่วนที่ยังไม่ได้ย้าย คือ เซิร์ฟเวอร์ , ฮาร์ดดิสก์พกพาไว้สำรองข้อมูล (External Harddisk) โดยจะให้ทางนิติวิทยาศาสตร์ ถอดข้อมูลออกมาตรวจสอบอีกครั้งว่าข้างในมีอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามว่าการขนย้ายข้อมูลออกไปจะมีการเปลี่ยนแปลงไปถึงตัวผู้ต้องหาหรือไม่ ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า จากประสบการณ์ของตัวเองที่เคยได้ทำคดีแชร์ลูกโซ่มาก่อน เช่น คดีฟอเร็กซ์ 3D คีย์แมนสำคัญที่จะจัดการระบบหลังบ้าน คือโปรแกรมเมอร์ หลังจากได้เบาะแสจากผู้ที่ทำงานอยู่ในบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป แม้เจ้าตัวที่ดูแลระบบจะถูกจับกุมตัวดำเนินคดีแล้ว แต่ยังมีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ โดยจะดึงข้อมูลนี้ออกมาเชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เป็นอย่างมาก พยานแวดล้อมในอาคารข้างคียง ให้ข้อมูลว่ามีรถตู้รุ่นอัลพาร์ดมานำข้อมูลออกไปตั้งแต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และนอกจากนายจิระวัฒน์ หรือบอสแลป แล้วยังมีพนักงานที่ร่วมงานอยู่ด้วย เนื่องจากชั้น 3 ของอาคารมีโต๊ะทำงานอยู่หลายโต๊ะ ซึ่งแต่ละโต๊ะจะมีการติดโค้ดส่วนตัวของแต่ละคน หลังจากนี้จะมีการถอดรหัสโค้ดดังกล่าวเพื่อให้ทราบถึงลักษณะการทำงานของโปรแกรมเมอร์ที่ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยังพบว่าลักษณะการทำงานของโปรแกรมเมอร์บริษัทดิไอคอนมีการเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ปี 2561 จนถึง ปี 2563 การเปลี่ยนวิธีการนี้สามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตามที่โปรแกรมได้เขียนระบุไว้ โดยจะต้องพิสูจน์ทราบจากข้อเท็จจริงส่วนนี้ให้ได้ เพื่อจะให้เห็นว่ารายชื่อผู้ได้รับผลประโยชน์ในบริษัทมีใครบ้าง โดยจะต้องดึงข้อมูลจากส่วนนี้ออกมาให้ได้ก่อน และข้อเท็จจริงเหล่านี้จะมีการบูรณาการข้อมูลร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า ดีเอสไอจะเน้นการตรวจสอบทรัพย์สินที่ได้มาว่า จะถูกถ่ายโอนไปในส่วนไหน โดยจะตรวจสอบร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพ ส่วนดีเอสไอจะอยู่ในการสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงที่จะเป็นประโยชน์หรือมีพฤติกรรมสงสัยเข้าข่ายความผิดตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ หากเข้าข่ายก็จะเป็นแชร์ลูกโซ่และการฟอกเงิน ระหว่างนี้การสอบสวนเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหลัก ทางด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ (ดีเอสไอ) พร้อมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจสอบบริเวณอาคารแห่งหนึ่ง ถ.รัชดา-รามอินทรา แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. ซึ่ง บ.ดิไอคอนกรุ๊ป เช่าเซิร์ฟเวอร์คลาวด์เพื่อเก็บข้อมูลไว้กับบริษัทแห่งนี้