รวบนอมินี เปิดบริษัทให้ลูกเขยอดีตนายกเล็ก ฮั้วประมูลโครงการถมดิน
วันที่ 17 ต.ค. 2567 เวลา 16:21 น.
สืบ ป.ป.ช. ภาค 1 ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง รวบนอมินี เปิดบริษัทให้ลูกเขยอดีตนายกเล็ก ฮั้วประมูลโครงการถมดินบนพื้นที่เทศบาล เสียหายรวมกว่า 4 ล้านบาท วันนี้ (17 ต.ค.67) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 สั่งการให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 1 บูรณาการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สืบสวนติดตามตัว นายรังสรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 17/2564 ลงวันที่ 6 ต.ค.64 ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 162 (2) (4) ประกอบมาตรา 86 และ พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86 พฤติการณ์ผู้ต้องหา ระหว่างเดือน ก.พ.49 ถึงเดือน ก.ค.49 นายรังสรรค์ มีพฤติกรรมใช้ชื่อของตนเองจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลให้กับลูกเขยของอดีตนายกเทศมนตรีตำบลแห่งหนึ่ง ซึ่งรับราชการอยู่ที่เทศบาล และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารรับรองผลงานไปยื่นเสนอราคาโครงการจ้างเหมาถมดินปรับพื้นที่บริเวณที่ดินของเทศบาล งบประมาณ 5,948,000 บาท และโครงการจ้างเหมาถมดินสถานที่ก่อสร้างที่พักพนักงานเทศบาล งบประมาณ 3,772,000 บาท โดยที่นิติบุคคลดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติตามประกาศจัดซื้อจัดจ้างโครงการ แต่นายกเทศมนตรีในขณะนั้น ไม่ตัดสิทธิออกจากการเสนอราคาทั้ง 2 โครงการ และไม่ยกเลิกการเสนอราคา ทั้งที่ทราบว่าไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศจัดซื้อจัดจ้าง และมีการปลอมแปลงเอกสารรับรองผลงาน เนื่องจากเจ้าของที่แท้จริงของนิติบุคคลเป็นลูกเขยของตนเอง โดยยังทำสัญญาจ้างนิติบุคคล ให้เข้าเป็นคู่สัญญากับเทศบาล มุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม อันเป็นการเอื้อประโยชน์แก่นิติบุคคลให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยวัดไตรสามัคคี 9 ถนนสุขุมวิท ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 15 ต.ค.67 จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.30 น. ของวันที่ 16 ต.ค.67 พบเห็นบุคคลมีลักษณะและรูปพรรณสัณฐานตรงกับผู้ถูกกล่าวหาขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านเป้าหมาย ชุดจับกุมได้ติดตามมาและแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดรถ และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและเจ้าพนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอตรวจสอบ พบว่าบุคคลดังกล่าวคือนายรังสรรค์ จึงควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาไปพบพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ และควบคุมตัวไปยังกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อทำบันทึกจับกุม พร้อมแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับให้ทราบ โดยดำเนินการแจ้งการควบคุมตัวไปยังอัยการและฝ่ายปกครอง ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ 2565 จากนั้นนำตัวส่งไปยังสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริตภาค 1 เพื่อฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ต่อไป หากท่านพบเห็นการทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถแจ้งสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 1205 เว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. www.nacc.go.th หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ