พ่อแม่คาใจฝากลูกวัย 1 ขวบให้ปู่กับย่าเลี้ยงได้ 5 วันดับปริศนา

วันที่ 16 ต.ค. 2567 เวลา 18:19 น.

ปวีณา เร่งตร.คลี่ปมน้องแป้งวัย 1 ขวบ เสียชีวิตปริศนา หลังฝากเลี้ยงไว้กับปู่กับย่าได้เพียง 5 วัน ล่าสุดย่าปิดมือถือหายตัวลึกลับ วันที่ 16 ตุลาคม 2567 เวลา 13.39 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา น.ส.แอ๋ม (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี พร้อมสามี เดินทางไปพบ พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี "น้องแป้ง" ลูกสาววัย 1 เดือน 25 วัน ที่นำไปฝากให้ย่าแท้ ๆ กับปู่เลี้ยง ช่วยเลี้ยงดูได้ 5 วัน จู่ ๆ เสียชีวิตมีเลือดออกทางจมูก แพทย์ชันสูตรสาเหตุการตาย "สันนิษฐานสมองได้รับบาดเจ็บ" หลังเกิด ย่าหลบหนีไปจึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวมาสอบปากคำหา  น.ส.แอ๋ม กล่าวว่า "น้องแป้ง" เป็นลูกสาวคนแรก แต่ตนกับสามีต้องทำงาน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก จึงนำน้องแป้งไปฝาก นางเอ อายุ 55 ปี แม่ของสามี ซึ่งเป็นย่าแท้ๆ กับสามีใหม่ของย่า ช่วยเลี้ยงดู ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.67 โดยมีสามีใหม่ของย่า และน้องสาวพ่ออาศัยอยู่ด้วย หลังฝากเลี้ยงแบบกินนอนได้ 5 วัน กระทั่งเช้ามืดตี 5 ของวันที่ 5 ต.ค. ย่าได้โทรมาบอกให้รีบไปดูลูก พบว่าลูกตัวเขียว ไม่หายใจ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลบางละมุง หมอได้ปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ หมอระบุ เด็กขาดอากาศหายใจก่อนส่งโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง และมีเลือดออกทางจมูก โดยย่าให้ข้อมูลว่า ลูกสาวตื่นมาร้องตอนตี 1 จึงได้ชงนมให้กินและหลานได้หลับไป กระทั่งตี 5 ตื่นมาเห็นว่าหลานมีอาการชักเกร็งจึงรีบโทรศัพท์มาบอกพ่อแม่ให้ไปดูลูก โรงพยาบาลจึงให้แม่ไปแจ้งความ จากนั้นย่าอ้างอีกว่า ช่วงเย็นของวันที่ 4 ต.ค. ได้อาบน้ำให้หลานแล้วขาของหลานไปโดนขอบอ่าง ซึ่งแม่คิดว่าถ้าแค่นั้นก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ และจู่ ๆ ย่าก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์หายออกจากบ้านจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่กลับมาและติดต่อไม่ได้เลย แพทย์ส่งศพลูกสาวไปชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.67 ระบุสาเหตุการตาย สันนิษฐานสมองได้รับบาดเจ็บ จากนั้นแม่ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองปรือ วันที่ 11 ต.ค. ทางตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ย่ามาพบ แต่ยังไม่มีวี่แวว ด้านนายกำธร อายุ 59 ปี ปู่เลี้ยง เผยว่า ตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย เนื่องจากตนนอนอยู่ข้างล่างบ้าน หลานกับย่าอยู่บนบ้าน มารู้อีกทีตอนเวลาประมาณ 05.00 น. เพราะพ่อแม่มารับลูกในเวลานั้น รู้อีกทีคือหลานตนก็ไปโรงพยาบาลเลย ภรรยาบอกอย่างเดียวว่าหลานสาวของตนสำลักนม ตนก็แทบไม่ได้อุ้มหลานเลย ตนไม่รู้จะบอกอะไรกับภรรยาเพราะตนนั้นไม่ทราบรายละเอียดอะไร เพราะภรรยาไม่บอกอะไรกับตนเลย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตำรวจได้ลงพื้นที่สอบปากคำทั้งหมดแล้วรวม 3 คน ประกอบด้วย พ่อแม่เด็ก และปู่ ส่วนตัวย่าที่อ้างว่าหลานสำลักนมเสียชีวิต ตอนนี้ปิดโทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อได้ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบปากคำ อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะต้องรอผลผ่าชันสูตรเพื่อสรุปสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง หากตรวจสอบพบมีใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และไขความคาใจของตัวพ่อแม่เด็ก