โซเชียลอึ้ง ถกไม่เถียง แฉเบื้องหลัง บอสพอล

วันที่ 16 ต.ค. 2567 เวลา 16:11 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวาน ในรายการถกไม่เถียง ถือเป็นเทปที่มีคนพูดถึงอย่างวงกว้างในโลกออนไลน์ เพราะเป็นข้อมูลที่ไม่เคยเปิดที่ไหนมาก่อน เช่น ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเป็นกุนซือ "บอสพอล" คือใคร เงินลงทุนที่แท้จริงไม่ใช่หลักหมื่นล้าน แต่เป็นหลักแสนล้านบาท ทำให้คนที่พลาดชมสดในออนไลน์เมื่อวาน พาไปกันดูคลิปย้อนหลัง แต่ปรากฏว่าหลายคนบอกว่าจู่ ๆ ก็คลิปปลิว ไม่รู้ว่าเป็นฤทธิ์ของเทวดาหรือเปล่า โซเชียลอึ้ง ถกไม่เถียง แฉเบื้องหลัง บอสพอล หลังจากจบรายการถกไม่เถียง เมื่อวาน เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้แชร์คลิปรายการถกไม่เถียงตอน "ตัวละครลับ เปิดโปงเส้นเงิน บอสพอล จ่ายส่วยเทวดาหมื่นล้าน คุ้มภัยกันผี" ที่ไลฟ์ผ่านช่องยูทูบ ระบุว่า "อันนี้เด็ด อย่าพลาด ต้องดู" แต่ปรากฏว่าเมื่อวาน หลายคนบอกว่าดูไม่ทัน บางคนบอกว่ากำลังดูอยู่ดี ๆ คลิปปลิว และทันทีที่คลิปกลับมาดูได้ เพจ Drama-addict ได้รีบโพสต์ว่า คลิปกลับมาแล้ว หลังมีคนรับชมคลิป ในโซเชียลแสดงความเห็นจำนวนมาก บางคนบอกว่าขนลุกมากกว่าฟังเดอะโกสอีก บางคนก็บอกว่าฟังแล้วเศร้าใจประเทศไทย เมื่อวาน ในรายการถกไม่เถียง ได้เชิญ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด มาร่วมรายการ พร้อมกับ "คุณจ๋า" ผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่เป็นแฟนคลับตัวยงของ บอสกันต์ รักมาก หมดเงินเก็บก้อนสุดท้ายไปเกือบ 300,000 บาท แต่ขายสินค้าได้ไม่ถึง 10,000 บาท ทำให้รู้สึกสิ้นหวังจนอยากจะจบชีวิตตัวเอง “ทนายตั้ม” ยืนยันไม่รู้จัก “บอสพอล” ทนายตั้ม ยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักบอสพอลเป็นการส่วนตัว และทนายทั้ง 8 คนที่เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย ไม่มีใครรู้จักบอสพอล และไม่มีใครไปข่มขู่ตบทรัพย์เขา แต่เพิ่งได้พูดคุยกับบอสพอลทางโทรศัพท์ถึงการเยียวยาผู้เสียหาย แต่ยังไม่ได้คุยในรายละเอียด ควรจะมาเจอตัวดีกว่า แต่ไม่รู้ว่าจะโดนจับไปก่อนหรือเปล่า อยากให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อให้ทุกฝ่ายมาทำงานร่วมกัน ขณะที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่า บอสพอลมีการจ่ายส่วยให้เทวดาใหญ่ 1 คน และเทวดาเล็ก ๆ อาจจะหลายตน เทวดาชอบเครื่องเซ่น เป็นสกุลเงิน USDT ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล มูลค่าหลักหมื่นล้านบาท จึงวอนเทวดาหยุดยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าลงมายุ่งเกี่ยวจะเปิดชื่อท่าน พร้อมหลักฐานด้วย จึงเชื่อว่าช่วงนี้เทวดาอาจจะอยู่นิ่ง ๆ จำศีลไปก่อน ซึ่งเทวดาคุยได้ทั้งพรรครัฐบาล และฝ่ายค้าน แฉเทวดารับเป็นเงินดิจิทัลแลกทุนจีนเทา ในรายการช่วงออนไลน์ ได้โฟนอินพูดคุยกับ "คุณปาล์ม" หนึ่งในทีมงานหลังบ้านของบอสพอล บอกว่า ช่วง 1-2 ปีแรกธุรกิจถูกต้อง แต่จดทะเบียนเป็นค้าปลีก มีการร้องเรียนไปที่ สคบ. จึงเปลี่ยนเป็นการทำธุรกิจแบบขายตรง บริษัทดำเนินธุรกิจไม่ถูกต้องมาตั้งแต่เริ่ม จึงทำให้ต้องใช้บริการของเทวดา เทวดามีแค่คนเดียว เทวดารับเป็น USDT ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลอย่างเดียว ก่อนจะนำไปแลกกับทุนจีนสีเทา จ่ายทั้งหมด 4 หน่วยงาน คือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท., กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ซึ่งการแปลงเงินบาทเป็นเงินดิจิทัล ทำให้ง่ายต่อการโยกย้ายถ่ายเท คุณปาล์ม เชื่อว่า เดี๋ยวตำรวจน่าจะเจอช่องเงินที่เขาโอนจากแม่ทีมระดับล่างโอนขึ้นไประดับบอส แจกจ่ายให้ระดับบอสและเทวดา และตอนนี้ ดิ ไอคอน ยังไม่ได้แตกกับเทวดา ตอนนี้ ดิ ไอคอน ถ้าไปขอให้เทวดาช่วย เทวดาบอกแค่ว่า ไม่รู้ ๆ แฉเทวดา ได้เงินหลักหมื่นล้าน เสียหาย 1 แสนล้านบาท คุณปาล์ม บอกว่า นอกจากนี้ยังมีเพจหนึ่ง นำข้อมูลในบริษัทออกมาเปิดเผยถึงจำนวนบอส สมาชิก ดีลเลอร์ และจำนวนรายได้ที่แท้จริง ซึ่งเพจนี้ถูกสร้างจากพนักงานด้านในบริษัทเอง ไม่ได้แฮ็กข้อมูล แต่เป็นดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลเซิร์ฟเวอร์โดยตรง เพจมุ่งเป้าที่บอสสวย ซึ่งเป็นตัวละครที่แท้จริงที่ตำรวจจะตามเส้นเงินได้ จากนั้นเพจก็โพสต์ถึงเรื่องบอสสวย และเรียกค่าไถ่ไปที่บอสพอล พอได้รับค่าไถ่ก็เลิกแฉ แก้ข้อมูลให้บอสพอล โดยมีการแก้จำนวนสมาชิกลงจากข้อมูล 600,000 คน เหลือเพียง 300,000 คน โดยเทวดาจะเก็บที่เรต 30 % จากมูลค่าเงินที่หายไปจากระบบ โดยเทวดาได้เงินระดับหมื่นล้านบาท ส่วนเรื่องสต๊อกสินค้า เงินลงทุน 8 พันล้านบาท ซึ่งจากการที่คุณทินคำนวณ พบว่า ต้องมีสินค้ามากถึง 13 ล้านกว่ากล่อง แต่ คุณปาล์ม บอกว่า ตัวเลขนี้เป็นเพียงตัวเลข 10 เปอร์เซ็นต์ที่ถูกแต่งแล้ว ตัวเลขที่แท้จริงต้องมีถึง 1 พันล้านกล่อง และตัวเลขเงินลงทุนจริง ๆ มีมากกว่า 1 แสนล้านบาท แฉมี 3 บอสแปลงเงิน-ปิดเฟซบุ๊กหนีแล้ว 2 บอส คุณปาล์ม บอกอีกว่า บอสทั้งหมดมี 10 บอส มี 3 บอสที่ทำหน้าที่อยู่ในกระบวนการแปลงเงินบาท เป็นเงิน USDT โดยมี 2 บอส ปิดเฟซบุ๊กหนีไปแล้วเพราะกลัวโดนเก็บ หนึ่งในบอสนั้นถือหุ้น ส่วนค่ายิงแอดก็ส่งเงินไปอยู่ที่บอสอีกคนหนึ่ง จี้ ตร.เร่งหา 2 บอสหอบเงินหนี คุณปาล์ม บอกว่า บอส 2 คนที่ปิดเฟซบุ๊กไปแล้วน่าเป็นห่วง เพราะถ้าทั้ง 2 คนหายไป เรื่องทั้งหมดก็ตามไม่ได้ เท่าที่ได้ยินมากำลังจะไปสิงคโปร์ เพราะที่นั่นแลกเงินง่ายมาก เดินเข้าไปกาสิโน เอา USDT ไปแลก สามารถถอนเงินออกมาถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจต้องเร่งตามหาบอส 2 คนนี้ให้ได้ ส่วน "คุณเบส" ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเครือข่าย ให้ข้อมูลกับรายการว่า ปกติแล้วธุรกิจเครือข่ายจะไม่มีการเก็บสินค้าไว้ในคลังนาน แต่บริษัทดังกล่าวเป็นการจดทะเบียนบริษัท "การตลาดแบบตรง" และเริ่มชวนคนให้เข้ามาร่วมลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผิดจากธรรมชาติของธุรกิจขายตรง เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ บางคนจ่ายเงินแล้วได้ของเพียงบางส่วน ไม่ได้เน้นขายสินค้า เพราะสินค้าจะเป็นอะไรก็ได้ โครงสร้างการขึ้นตำแหน่งต่าง ๆ คนที่เป็นบอสที่มีคะแนนหรือยอดในมือจะดันใครก็ได้ขึ้นตำแหน่ง ช่วงท้ายรายการ คุณทิน ได้พยายามสอบถาม คุณปาล์ม ว่า มีคนที่เหนือกว่า บอสพอล อีกหรือไม่ คนที่เป็นลาสบอส คุณปาล์ม บอกว่า ส่งคลิปวิดีโอให้นายเอกภพดูแล้ว ทำให้ทั้งนายเอกภพ ทนายตั้ม และคุณทิน ช่วยกันดูคลิปวิดีโอนี้