ฉบับเต็ม มินแถลงทั้งน้ำตา ขอเลือกข้าง ปชช.

วันที่ 11 ต.ค. 2567 เวลา 15:50 น.

ฉบับเต็ม "มิน" แถลงทั้งน้ำตา ไม่รอหมายเรียก สัปดาห์หน้านัดหอบหลักฐานเข้าพบเจ้าพนักงาน เสียงสะอื้น ขอยืนเคียงข้างประชาชน ยกเลิกสัญญาดิไอคอน ตอนนี้อยากพบอยากฟังข้อเท็จจริงจากผู้เสียหาย ผจก. เผยค่าจ้างเท่างานพรีเซ็นเตอร์ ไม่ใช่หลักร้อยล้านหรือหลายสิบล้าน วันนี้ (11 ต.ค.67) มิน พีชญา แถลงข่าวพร้อมผู้จัดการส่วนตัว และทนายความ ชี้แจงรายละเอียดการร่วมงานกับบริษัทดิไอคอน แถลงข่าวพร้อมน้ำตา กล่าวแสดงความเสียใจพร้อมขอโทษประชาชนและผู้เสียหายทุกคน “มิน” ไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็นผู้รับจ้าง พรีเซ็นเตอร์ และพีอาร์ ในตำแหน่ง ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กร “มีน” ไม่ใช่ลูกจ้าง สัญญาว่าจ้างให้บริการจัดการและเป็นผู้บริหารสื่อสารการตลาดออนไลน์ สัญญาเริ่มต้น วันที่ 1 มี.ค.66 ลงนามโดยฝ่ายผู้ว่าจ้าง ส่วนฝ่ายของมีน รับจ้างในนามบริษัท กรรมการบริษัท คือคุณพ่อ ร่วมลงนามด้วย  “มิน” หลังรับทราบเรื่องเสียใจมาก อยากแสดงความจริงใจกับผู้เสียหาย ขอยุติสัญญากับ บ.ดิไอคอนทั้งหมด ขอเลือกข้างประชาชน เพราะ “มิน” มีวันนี้ได้ก็เพราะประชาชน ขอเลือกความถูกต้อง ความยุติธรรม จากนี้จะขอรวบรวมหลักฐานเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และอยากรู้ความจริงเหมือนกับทุกคน ก่อนหน้านี้ มินพยายามติดต่อคุณพอล ประมาณ 3 วัน แต่บริษัทเลือกที่จะเงียบ เมื่อทุกอย่างถาโถมมาที่มิน จึงต้องแถลงข่าว ยืนยันว่าไม่ใช่ผู้บริหารบริษัท ส่วนคำเรียกที่เรียกว่าบอส เป็นการเรียกเพื่อให้เกียรติเท่านั้น “มิน” ก่อนรับงานตรวจสอบมาอย่างรอบคอบว่า บริษัทนี้เปิดมา 6 ปี มีรางวัลจาก สคบ. เท่าที่ร่วมงานมาปีกว่า ก่อนหน้านี้มีดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้มากบริษัทกว่า 10 คน และไม่เคยทราบว่ามีเรื่องไม่ดี เพราะถ้าได้ยินแม้แต่เรื่องเดียวหรือคนเดียว “มิน” ไม่มีทางร่วมงานกับดิไอคอน เพราะตั้งใจให้สิ่งที่ดีที่สุดกับประชาชน วันนี้อยากให้คิดว่า ”มิน” มีธุรกิจ มีฐานแฟนคลับมากมาย “มิน” จะเอาชื่อเสียงตัวเองมาแลกกับเรื่องแบบนี้หรือไม่  วันนี้รู้สึกผิดกับประชาชนที่ตรวจสอบข้อมูลได้ไม่ดีพอ จึงขอยุติสัญญากับดิไอคอน “มิน” ชี้แจงตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนว่า คลิปการแนะนำผลิตภัณฑ์บางตัว เพราะ “มิน” ได้ทดลองใช้จริงแล้วไม่เกิดอันตราย เมื่อย้อนไปฟังบางคลิป “มิน” รู้สึกเสียใจ ที่ยังรอบคอบไม่มากพอ ไม่ตรวจสอบเชิงลึกให้มากพอ โดยบทพูดอื่นๆ ไปตามสคริปต์ที่บริษัท ยกเว้นงานวันเกิดของคุณพอล “มิน” ไปด้วยตนเอง เพราะขณะนั้น พอลไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร หากรู้ว่ามีการสร้างความเสียหาย ไม่มีทางไปแน่นอน ผู้สื่อข่าถามว่าจะคืนเงินค่าจ้างทั้งหมดเลยหรือไม่ “มิน” กล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายก่อน เพราะกฎหมายต้องตรวจสอบเส้นทางเงิน ตอนนี้ “มิน” ชื่อเสียงเสียหาย ได้รับผลกระทบรุนแรง ทั้งธุรกิจส่วนตัว ธุรกิจของครอบครัว และงานแสดง ซึ่งละครกำลังออนแอร์ “มินยืนยันว่าไม่หนี ไม่รู้สึกกลัวอะไร พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด และจะไม่รอหมายเรียก แต่จะเดินเข้าไปพบเจ้าพนักงานด้วยตนเอง และอยากเจอผู้เสียหาย จนถึงขณะนี้ไม่เคยได้เจอผู้เสียหาย ถ้ามีโอกาสอยากพบและคุยเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากผู้เสียหาย ย้ำว่า “มิน” เสียใจที่มีคนได้รับความเดือดร้อน” “มิน” ย้ำอีกว่า มินสร้างตัวเองมา 20 ปี ไม่เคยมีเรื่องเสียหาย ไม่มีความจำเป็นต้องเอาตัวเองมาแลกกับเรื่องที่หมิ่นเหม่ต่อจริยธรรม อยากถามในมุมกลับว่ามันคุ้มหรือไม่กับค่าตัวเท่ากับการรับงานพรีเซ็นเตอร์ปกติ เพราะในวันที่ตัดสินใจร่วมงานกับดิไอคอน ไม่มีข้อเท็จจริงในแง่ลบของบริษัทเข้ามาเลย ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรกับกรณีที่คนในบริษัทโต้แย้งไปยังผู้เสียหายในทำนองว่าเสียหายเพราะขายสินค้าไม่ได้เอง “มิน” กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย เพราะบริษัทบอกจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในทางกฎหมายยังไม่รู้ผิดถูก แต่ในแง่จริธรรมควรมีความช่วยเหลือที่จะมอบให้แก่กันได้ หลังบริษัทตกเป็นข่าว "มิน" ได้สอบถามไปยังคุณพอลว่า เห็นคลิปหรือยัง เห็นแล้วจะจัดการอย่างไร วันแรกก็แจ้งว่าจะทำคลิปวิดีโอชี้แจงกับสื่อเร็วที่สุด วันที่ 2 บอกจะไลฟ์โต้ตอบ วันที่ 3 บอกจะมีการแถลงข่าว “มิน”  รออยู่ 3-4 วัน บริษัทก็ไม่ได้แถลงข่าวให้ความชัดเจนกับประชาชน วันนี้จึงต้องออกมาแถลงข่าว และขอโทษประชาชน ทางเขาก็บอกว่า “มิน” ออกไปตอบได้เลย เมื่อถามถึงช่วงนี้ "มิน" ก็มีน้ำตาคลอ ตอบด้วยเสียงสะอื้นว่า ทุกอย่างมันช้าไปหมด ทำให้เกิดความเสียหายโดยประเมินค่าไม่ได้ ตอนนี้ไม่ต้องรอการพิสูจน์ว่าผิดหรือถูก เพราะเสียใจที่มีประชาชนเดือดร้อน และโทษตัวเองว่าทำไมปล่อยให้มีผู้เสียหายมากขนาดนี้ ตอนนี้อยากยืนเคียงข้างประชาชน โดยช่วยรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่มี ผู้จัดการส่วนตัวของมิน ชี้แจงว่า มินรับจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์ และ ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กร มีหน้าที่ต้องโปรโมตสินค้าและผลิตภัณฑ์ นี่คือความหมายของคำว่ามากกว่าพรีเซ็นเตอร์ ค่าตัวของ “มิน”ไม่ใช่ 100 ล้านหรือหลายสิบล้าน ขณะนี้รายได้ปีครึ่งค่าตัวออกมาแล้ว เป็นรายได้ในแต่ละเดือน ไม่มีค่าคอมมิชชัน ซึ่งในแต่ละเดือนได้รับค่าจ้างไม่เท่ากัน เพราะการทำงานในแต่ละเดือนไม่เท่ากัน รายได้จึงเป็นไปตามการออกงาน โดยสัญญาระบุเพียงว่า 1 เดือน “มิน” ต้องเข้าบริษัทอย่างน้อย 1 วัน ทางด้านทนายความ ยืนยัน ว่าสัปดาห์หน้าไม่เกินวันอังคาร “มิน” จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมรวบรวมหลักฐานเอกสารทั้งหมดไปส่งมอบให้เจ้าพนักงานด้วย