มิน พีชญา ประกาศเป็นบอสขายตรง

วันที่ 11 ต.ค. 2567 เวลา 06:13 น.

เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องใกล้ตัวจากผู้ลงทุน กลายไปเป็นผู้เสียหาย ธุรกิจขายตรง ภายใต้สโลแกนของบอสใหญ่ "ทำงานผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย"   มิน พีชญา ประกาศเป็นบอสขายตรง วานนี้ ผู้เสียหายพากันแจ้งความ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันหลงเชื่อเพราะ พรีเซนเตอร์ ที่เป็นดารา พิธีกร 1 ในนั้น คือ  มิน- พีชญา ย้อนไปฟังวันที่เธอขึ้นเวลาประกาศเป็น "บอสมิน" กันหน่อย เป็นคลิปบางช่วง บางตอนที่ นางเอกสาว มิน พีชญา วัฒนามนตรี ประกาศตัวเป็น บอสมิน ของธุรกิจขายตรงชื่อดัง ที่กำลังถูกร้องเรียน เธอเล่าประสบการณ์ ให้สมาชิก บนเวทีสัมมนาได้ พร้อมประกาศว่า ตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่พรีเซนเตอร์แต่เป็น "บอสมิน" พร้อมว่าเหตุผล ที่ได้มาร่วมทำธุรกิจดังกล่าว เพราะมั่นใจคุณภาพสินค้า และแนวคิดการของ "บอสพอล" ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเล่าว่าหลังบ้าน ทำงานอย่างหนัก เปิดโรงเรียนสอนขายตรง ให้สมาชิกมีแนวทางการขายที่ถูกต้อง และเติบโตไปด้วยกัน มิน พีชญา นัดเคลียร์ปมธุรกิจวันนี้   สำหรับ นางเอกสาวมิน-พีชญา มีตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรของบริษัทขายตรง หลังถูกแฉว่าเป็นธุรกิจขายฝัน คล้ายแชร์ลูกโซ่ ธุรกิจนี้มีดารา พิธีกร นักแสดงไปนั่งแท่นบอส ทำให้มีคนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ทาง นางเอกสาวมิน-พีชญา บอกว่าวันนี้ 11 ตุลาคม 2567 เวลา 14:00 น. จะตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ  ด้าน บอย -ปกรณ์ ฉันตรบริรักษ์ ปรากฎตัวบนเวที ของบริษัทขายตรงบ่อยครั้ง ออกมาชี้แจง ตนเองเป็นเพียงพรีเซนเตอร์ ไม่ได้มีตำแหน่งผู้บริหารใด ๆ ในบริษัท และไม่ได้เป็นบอส เช่นเดียวกับ "โดม ปกรณ์ลัม" ก็ระบุว่าตนเอง เป็นเพียงพรีเซนเตอร์ ส่วนทาง กันต์ กันตถาวร พิธีกรชื่อดัง มีคลิปได้รับการเปย์รถ กระเป๋าหรูจากบอสพอล และยังทำหน้าที่ พรีเซนต์โรงเรียนสอนตรง วานนี้โพสต์ว่า ตนเองหารือต้นสังกัด และผู้ร่วมงานตัดสินใจขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรทุกรายการ จนกว่าจะมีความชัดเจน พร้อมให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม และอยู่ ๆ  ช่วง 20.00 น. ที่ผ่านมา บริษัทขายตรง ได้โพสต์ภาพของพรีเซนเตอร์หลัก 5 คน ยืนยันว่า "กันต์ กันตถาวร", "แซม ยุรนันท์" และ "มีน พีชญา" เป็นเพียงผู้ช่วยทำการตลาดของบริษัทเท่านั้น ด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ข้อความระบุว่า "ตัวการ หรือผู้สนับสนุน ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้มีอำนาจบริหารกิจการบริษัท เสมอไป เพราะคนร้าย อาจแบ่งหน้าที่กันทำผิดก็ได้ ทิ้งท้ายว่า ดารา พิธีกร บางคนแสดงออกชัดเจนขนาดนั้น รอดได้ก็ต้องใช้เส้นสาย ทำความยุติธรรม แล้วละครับ" ผู้เสียหาย แจ้งความเอาผิด ธุรกิจขายตรง  ส่วนกลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน วานนี้ ทีมงานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาไปกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ร้องทุกข์ ที่ถูกหลอกให้เป็นผู้ร่วมลงทุน เหยื่อเปิดใจว่า หลวมตัวเข้าร่วมการลงทุนเพราะเชื่อมั่นในตัวพรีเซนเตอร์ ที่เป็นดาราแถมหน้าของเมืองไทย พูดจาโน้มน้าว ชวนลงทุน ได้กำไรแน่นอน    แต่เมื่อตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนเป็นลูกทีม ถูกพาเข้าไปเรียนคอร์สต่าง ๆ เชิญชวนมาต่อยอดธุรกิจ โดยเงินทุนต่าง ๆ ให้ไปหาเอาเอง บางคนล้มไม่เป็นท่าบางคนถูกหลอกให้เป็นหุ้นส่วนบริษัทเปิดสาขาย่อย ให้ไปหาลูกทีมเพิ่ม ขายฝันว่าจะได้กำไรมากกว่าเป็นตัวแทนเครือข่าย ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครได้กำไร ยิ่งทำยิ่งจน ส่วนคนที่รวยคือเจ้าของบริษัท ทนายเดชา เชื่อคดีนี้มี ดารา ติดคุก  ขณะเดียวกัน ผู้เสียหายอีกหลายสิบคน ให้ทนายเดชา ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ แจ้งความร้องทุกข์ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องไม่ให้ลอยนวล ทนายเดชา ยืนยันว่า เรื่องนี้ต้องมีดาราติดคุก สคบ.จ่อเรียก ดารา-อินฟลูฯ ให้ข้อมูล  ความเคลื่อนไหวของ สคบ. เปิดเผยว่า ธุรกิจนี้ผิดแผนการขอใบอนุญาต เนื่องจากเป็นการขายสินค้าแบบตรงในรูปแบบออนไลน์ ไม่ใช่การขายตรง มีคนมาร้องเรียนนับ 100 คน บางคนสูญเงิน 8 ล้านบาท ไม่ได้รับค่าตอบแทน ส่วนดารา อินฟลูอินเซอร์ ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ เพราะเป็นหนึ่งในผู้สร้างความเชื่อถือ และรับผลประโยชน์ สคบ.ยืนยันว่า ไม่นิ่งนอนใจ อยู่ระหว่างพิจารณาข้อหาว่า เข้าข่ายการฉ้อโกงด้วยหรือไม่ ได้พูดคุยกับ DSI จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริษัท สัปดาห์หน้าจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องดารา-อินฟลูอินเซอร์มาให้ข้อมูล หลังผู้เสียหาย ออกมาทวงความยุติธรรม ทางเพจฯ ของบริษัทก็เคลื่อนไหว แจ้งยกเลิกกิจกรรมทั้งหมดในเดือนตุลาคมนี้ โดยไม่ระบุสาเหตุ และจะประกาศกำหนดการใหม่อีกครั้ง บิ๊กต่าย ชง ปปง.ยึดทรัพย์บริษัทขายตรง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า การสอบปากคำยังไม่เรียบร้อย ต้องใช้เวลาอีก 4-5 วัน ถึงจะชัดเจนว่า ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนเรื่องการยึดทรัพย์ เป็นอำนาจ ปปง. ตำรวจได้ทำหนังสือประสานไปให้พิจารณาแล้ว อย่างน้อยจนกว่าจะพิสูจน์ความถูกผิดได้ ไม่ควรมีทรัพย์สินถูกโยกย้ายไปไหน