ประวัติ 12 คดี แนน ท่าเกวียน หลอกขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ โอนแล้วปิดเพจหนี

วันที่ 10 ต.ค. 2567 เวลา 09:26 น.

สืบนครบาล ตามรวบ แนน ท่าเกวียน เปิดเพจหลอกขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ รับโอนเงินไปแล้วไม่ส่งสินค้า ปิดเพจหนี พบประวัติเคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 12 คดี เพิ่งพ้นโทษออกจากคุก วันนี้ (10 ต.ค.67) สืบนครบาลแจ้งว่า ช่วงเย็นวานนี้ (9 ต.ค.67) เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ธันยรัตน์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.600/2566 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ฐานฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าปากซอยวัดท่าเกวียน ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สำหรับคดีนี้ ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน ว่าเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.65 ได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการขายเฟอร์นิเจอร์ ตามที่มีประกาศขายชุดรับแขกไม้มะค่า และตกลงซื้อขายกัน โดยผู้ซื้อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ขาย คือ น.ส.ธันยรัตน์ ครั้งแรกเป็นเงิน 7,000บาท เป็นค่าสั่งซื้อชุดรับแขกไม้มะค่า ครั้งที่ 2 โอนเงิน 13,500 บาท เป็นค่าสั่งซื้อชุดรับแขกไม้สัก ตู้โชว์ โต๊ะรองทีวี แหย่งไม้สัก และครั้งที่ 3 โอนเข้าระบบพร้อมเพย์ น.ส.ธันยรัตน์ เป็นเงิน 6,000 บาท เป็นค่าสั่งซื้อตู้ไม้สัก หลังจากที่ได้โอนเงินไปแล้วปรากฏว่า น.ส.ธันยรัตน์ ไม่ได้จัดส่งสินค้าชุดไม้มะค่ามาให้ผู้เสียหายแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อกับทางเพจเฟซบุ๊กได้ ในชั้นจับกุม น.ส.ธันยรัตน์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าเรียนจบชั้น ม.6 จากมัธยมขื่อดังย่านนนทบุรี แต่ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ต่อมาได้คบหากับแฟน ซึ่งประกอบอาชีพทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ขาย เช่น ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ ตนจึงได้หาช่องทางในการขายเฟอร์นิเจอร์ผ่านเฟซบุ๊ก ช่วงแรกรับออเดอร์และส่งเฟอร์นิเจอร์ให้กับลูกค้าตามออเดอร์ ต่อมามีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน หมุนเงินไม่ทัน เคยถูกตำรวจ สภ.บ้านบึง จับกุมในคดีฉ้อโกง มูลค่าความเสียหาย 1 แสนบาท ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี พ้นโทษออกมาเมื่อประมาณเดือน พ.ค.67 และทราบว่ามีหมายจับคดีอื่นอีก จึงย้ายที่พัก แต่ก็มาถูกจับกุมได้  จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบข้อมูลว่า น.ส.ธันยรัตน์ มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล ในลักษณะฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 12 คดี