ภารกิจทีมกู้ภัยฯ ค้นหาร่างเด็กหญิงดินไหลทับร่าง
วันที่ 10 ต.ค. 2567 เวลา 06:08 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - ติดตามภารกิจของทีมกู้ภัย ที่ยังคงเร่งค้นหาร่างเด็กหญิง อายุ 10 ขวบ ที่ถูกดินไหลทับร่างริมตลิ่งแม่น้ำยม ที่จังหวัดสุโขทัย ขณะที่ญาติ ได้จุดธูปบอกกล่าวให้พบร่างน้องโดยเร็ว ภารกิจทีมกู้ภัยฯ ค้นหาร่างเด็กหญิงดินไหลทับร่าง ขณะที่นางศรีนวล อายุ 70 ปี ยายของเด็กหญิงชุติมา อายุ 10 ขวบ ร้อนใจด้วยความเป็นห่วงหลาน ได้จุดธูป 16 ดอก บอกกล่าว แม่พระธรณี แม่พระคงคา ขอให้เปิดทางพบหลานโดยเร็ว หลังจากมีการค้นหาร่างของเด็กหญิง ล่วงเข้าสู่วันที่ 2 แล้วแต่ยังไม่พบร่าง จากนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสวรรคโลก และทีมกู้ภัยแบ่งกำลังค้นหา ลงเรือท้องแบนล่องไปตามแม่น้ำยม มายังจุดที่เกิดดินไหล เพราะถ้าลงตรงจุดที่เกิดเหตุดินอาจไหลเพิ่มเติมได้ รวมทั้งช่วยกันขนของในบ้านที่ติดกัน เพื่อลดน้ำหนักไม่ให้บ้านพังลงไป และแผ่นสังกะสี ไปปักไว้ตามแนวตลิ่งป้องกันดินไหลลงมา อาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ ระหว่างลงมือปฏิบัติงาน ซึ่งมีการแบ่งออกเป็นทีมละ 10 คน ผลัดกันลงไปเปิดหน้าดิน ตามพิกัดสุดท้ายที่ดินไหลทับ ผู้สูญหายถึง 3 รอบ แต่ก็ยังไม่พบร่าง โดยปลัดอาวุโส อำเภอสวรรคโลก เผยว่า หลังจากประชุมและแบ่งทีมแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ทุกคนก็เร่งดำเนินการขุดเปิดหน้าดินลงไป ในแต่ละชั้นดิน จะใช้เหล็กทิ่มลงดินเพื่อเช็คดูใต้ดินว่ามีวัสดุอะไรอยู่บ้าง เนื่องจากคาดว่าผู้สูญหายน่าจะถูกดินไหลลงมาทับไม่ต่ำกว่า 3 รอบ จึงทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก กระทั่งเวลา 21:00 น. ทีมอาสากู้ภัยยังไม่เจอร่างผู้สูญหาย จึงทำการปรับแผนใหม่ในการค้นหา โดยการใช้รถแบ็กโฮรื้อบ้านหลังที่เหลือ (บ้านญาติผู้สูญหาย) เพื่อความปลอดภัยของคนทำงาน เนื่องจากเกรงว่าบ้านที่เหลือจะพังลงมาทับทีมค้นหา หลังจากนั้นทำการค้นหาอีกครั้งตลอดทั้งคืน แต่ในเบื้องต้นยังไม่พบร่างผู้สูญหาย กระทั่งเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหา เริ่มค้นหาใหม่อีกครั้งช่วงเช้าวันนี้ สร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมถนน ขยับลงมาพื้นที่ภาคกลาง หลังจากเขื่อนระบายน้ำในอัตรา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา หลายจังหวัด ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ได้รับความเดือดร้อน บางจุดระดับน้ำเพิ่มสูงกว่า 1 เมตร 50 เซนติเมตร อย่างที่จังหวัดอ่างทอง เจ้าหน้าที่ อบต.จำปาหล่อ เร่งนำเครื่องมือหนักสร้างคันดินสูงกว่า 1 เมตร ยาว 200 เมตร ป้องกันน้ำข้ามถนนริมถนนสายอ่างทอง-ป่าโมก พื้นที่หมู่ 6 ตำบลจำปาหล่อ อำเภอเมืองอ่างทอง หลังน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ทะลุแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน และท่วมสวนกล้วย อีกทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกันในพื้นที่ลุ่มต่ำ ตอนนี้ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 1.50 เมตร ต้องใช้เรือในการเดินทางเข้า-ออกจากบ้าน พื้นที่นอกคันกั้นน้ำ น้ำเพิ่มสูงขึ้น ส่วนน้ำท่วมในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับผลกระทบจากแม่น้ำน้อย หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำในอัตราไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที บ้านเรือนในชุมชน ถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 70 หลัง จนเกือบเต็มพื้นที่ นอกจากนี้ น้ำยังเพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยวแรง ท่วมถนนทางเข้าออกชุมชน ต้องใช้เรือในการสัญจร เกาะเกร็ดอ่วม เจอพายุฝนกระหน่ำ จังหวัดนนทบุรี พื้นที่บริเวณเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด เกิดพายุฝนกระหน่ำนานหลายชั่วโมง มีบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายหลังคาปลิว มีต้นไม้หักโค่น และมีสายไฟบางจุดได้รับความเสียหาย ทำให้ชาวบ้านหวั่นอันตราย สอบถามนางน้อย สาตรรอด อายุ 72 ปี บอกว่า บ้านตนได้รับความเสียหายพอสมควร อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตัดต้นไม้ที่ทับเสาบ้านให้ตนก่อน แล้วตอนนี้ยังต้องระวังน้ำทะเลหนุนสูงอีก แต่เบื้องต้น ตนเองได้ขนของหนีน้ำแล้ว สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศ เฝ้าระวัง น้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 13-24 ตุลาคม 2567 เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับมวลน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำไหลลงมาสมทบ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม ขอบคุณภาพจาก : Facebook อาสาฯมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดสุโขทัย