แม่พาลูกสาววัย 19 ปี ร้องทนายประจำ จ.เพชรบูรณ์ ช่วย ก่อนโร่แจ้งความ ถูกวัยรุ่นนับ 10 คน มอมยารุมโทรม ถ่ายคลิปไว้ประจาน

วันที่ 9 ต.ค. 2567 เวลา 17:42 น.

วันนี้ (9 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่อายุ 41 ปี ได้พาตัวลูกสาวอายุ 19 ปี ร้องเรียนต่อ นายสิทธิชัย ต๊ะอาจ หรือ ทนายอ้วน ทนายความประจำ จ.เพชรบูรณ์ โดยกล่าวหาว่า น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของลูกสาว ล่อลวงไปให้กลุ่มวัยรุ่นชายนับ 10 คน รุมโทรมข่มขืน เหตุเกิดที่ในบ้านเช่าหลงหนึ่ง ที่บ้านคลองศาลา ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 10 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา จากนั้นนายสิทธิชัย จึงได้พาผู้เสียหายไปชี้บ้านที่เกิดเหตุ พร้อมพาเข้าพบ พ.ต.ท.วิริยะ กิ่งแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย บอกว่า ตนเป็นชาว อ.เมืองเพชรบูรณ์ แต่ไปทำงานอยู่กรุงเทพมหานคร และจะเดินทางกลับมาบ้าน เดือนละครั้ง วันเกิดเหตุตนกับเพื่อน ๆ ได้ชักชวนกันไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบูรณ์ และแยกย้ายกันกลับ ต่อมาเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 10 ก.ย. 67 ได้มีเพื่อนผู้หญิงกลุ่มเดียวกัน โทรศัพท์เข้ามาบอกว่ารออยู่บ้านเช่าแห่งหนึ่งที่บ้านคลองศาลา ตนบอกไม่มีรถไป เพื่อนก็บอกว่าเดี๋ยวจะให้คนเข้าไปรับ จากนั้นก็มีวัยรุ่นชายขี่รถจักรยานยนต์มารับ แล้วพาไปที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบเพื่อนคนที่โมรมาชวน ซึ่งตนได้บอกให้ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวไปส่งห้องพักที่ตนเช่าไว้ แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นช่วยกันจับตัวเอาไว้ และได้นำผงสีขาวมายัดใส่จมูก ใส่ปาก ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต่อมากลุ่มวัยรุ่นได้ผลัดกันรุมกระทำชำเราอย่างป่าเถื่อน ซึ่งตนจำใบหน้าวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ทุกคน นอกจากนั้นพวกกลุ่มวัยรุ่นยังได้ใช้ไฟโทรศัพท์มือถือส่องที่ใบหน้าตลอดเวลา เหมือนเป็นการถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ผู้เสียหายบอกอีกว่า หลังจากที่ทุกคนข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ พวกวัยรุ่นได้พาไปส่งที่ห้องพัก ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้บอก ไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง เพราะอับอาย และกลัวจะได้รับอันตราย จากนั้นจึงรีบเดินทางกลับกรุงเทมหานครโดยรถโดยสารประจำทาง ต่อมากลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุได้มีการส่งข้อความมาทางโทรศัพท์มือถือของตน บอกว่าเรื่องนี้มีการอัดคลิปวิดีโอขณะรุมโทรมเอาไว้ และขู่ว่าจะปล่อยคลิปวิดีโอดังกล่าว ตนจึงตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พี่ชายและแม่ฟัง กระทั่งแม่พามาพบกับทนายสิทธิชัย ก่อนจะไปเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุแล้ว ล่าสุด เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เดินทางมาร่วมสอบถามข้อเท็จจริงเพื่อจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวอีกหลายคนที่เคยถูกกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ก่อเหตุรุมข่มขืน แต่ส่วนใหญ่อับอายจึงไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ หลังทราบเรื่อง ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาพบ เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป