แฉธุรกิจขายตรงใหญ่ ผู้เสียหายโผล่เพียบ

วันที่ 9 ต.ค. 2567 เวลา 11:22 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - มีเรื่องให้ตามสืบ ! กรณีหลายเพจฯ ดัง ออกมาแฉธุรกิจยักษ์ใหญ่ "ยอดขายปัง พรีเซนเตอร์ดังเพียบ" และที่เยอะไม่แพ้กันคือผู้เสียหาย ออกมาแฉยับ เป็นธุรกิจแบบไหน ขายสินค้าไม่ได้เลย แต่ยอดขายหลักพันล้าน แฉธุรกิจใหญ่ ผู้เสียหายโผล่เพียบ เรื่องนี้ โซเชียลออกมาแฉ บอกว่า เป็นธุรกิจขายตรงเจ้าใหญ่ สินค้าหลัก คือ อาหารเสริม และเครื่องสำอาง สโลแกนธุรกิจเชื้อเชิญให้คนสนใจ "ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย" มีดาวน์ไลน์จำนวนมาก จากคำพูดของพรีเซนเตอร์ ผู้บริหาร จนมีคนหลงเชื่อ เพราะอยากรวยไว ๆ ธุรกิจนี้เติบโตอยู่นาน มีพรีเซนเตอร์เป็นดาราแถวหน้าของเมืองไทยมาช่วยการันตี สินค้าขายดี ลงทุนไม่ยุ่งยาก ได้ผลตอบแทนงดงาม แต่สุดท้ายผู้ที่หลงเชื่อบอกว่า ไปไม่รอด ! เพจฯ ดังออกมาแฉอีก มีลูกเพจแจ้งมาว่า สามีป่วยมะเร็ง แต่อยากช่วยเหลือครอบครัว เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย อยากหาอาชีพเสริม มาช่วยครอบครัว ก็ไปเจอแม่ทีมชวนลงทุน 250,000 บาท จึงเอารถยนต์ไปจำนำ ด้วยความไว้เนื้อเชื้อใจ สมัครไปครั้งแรก 2,500 บาท แต่พอเห็นดาราดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ และบริหารงานเองจึงหลงเชื่อหมดใจ สมัครเป็นดีลเลอร์ ซื้อของมาขาย ลงทุนไปราคา 250,000 บาท โดยทางบริษัทจะเป็นคนหาลูกค้าให้ แต่สุดท้ายพยายามเท่าไหร่ ก็ขายไม่ได้ หาลูกทีมก็ลำบาก จนของที่ซื้อมากองอยู่ในบ้าน สุดท้ายสามีหมดหนทาง เครียด รถที่นำไปจำนำไม่มีเงินไถ่ถอน เป็นหนี้เป็นสิน เครียดหนักจนอาการทรุดต้องหามส่งโรงพยาบาล และได้เสียชีวิตลงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีคุณคริสโตเฟอร์ เบญจกุล อดีตดารา แต่ตอนนี้เป็นผู้พิการ ถูกดาราคนหนึ่งทักมาชวนลงทุน ซึ่งเจ้าตัวได้นำเงินเก็บก้อนสุดท้ายไปร่วมลงทุน แต่ก็ล้มไม่เป็นท่า ดาราที่เคยชักชวน ไม่เคยกลับมาดูดำดูดี จนคุณคริสท้อแท้กับชีวิต เคยคิดสั้น ด้านกบ ไมโคร นักร้องรุ่นใหญ่ออกมาโพสต์ระบุข้อความว่า "ดูเหมือนจะมีคนบาดเจ็บรวมกันไม่น้อย เกาะกลุ่มแอดเพื่อนเอาไว้นะครับ เผื่อกระจัดกระจายแล้วจะรวมตัวกันยาก" ผมอยากบอกว่า "ผมโง่เอง ไม่ทันเกมเอง" ไม่เคยค้าขายเลยไม่เข้าใจรูปแบบธุรกิจ กว่าจะต่อภาพจบก็ทำไปปีครึ่ง ถึงตรงนี้บอกเลยว่าไม่มีใครเอาผิดเขาได้หรอก ผมเองก็ไม่สามารถเอาผิดเขาได้ เพราะเขาสร้างเงื่อนไขไว้รัดกุมมาก จนถึงตอนนี้ มีผู้เสียหายออกมาแฉเรื่อย ๆ จนดาราท่านหนึ่งที่เป็นพรีเซนเตอร์ และพ่วงตำแหน่งผู้บริหาร ออกมาชี้แจง บอกว่า คุยกันได้ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว เจ้าของก็ต้องพร้อมที่จะรับฟัง และพร้อมที่จะเข้าใจ ว่ามันเกิดแบบนี้กับตัวแทน ต้องแก้ปัญหา ต้องพร้อมรับฟัง ซึ่งจริง ๆ ผมมองว่า เรื่องนี้มันยังมีการคุยกันได้ ถ้าผลิตภัณฑ์มันขายไม่ออก ก็ต้องมาดูเรื่องราคาว่าแพงไป หรือ เกิดจากตรงไหน ตอนนี้ ดาราที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว เริ่มออกมาเคลื่อนไหว บอกว่าเป็นแค่พรีเซนเตอร์ ไม่เกี่ยวกับการบริหารงาน จนมีคลิปแฉออกมา พูดแนะนำกันบนเวที ว่าเขาคือผู้บริหารด้วย ด้าน ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายคนดังโพสต์ว่า ธุรกิจขายตรง ถ้าสินค้าขายได้แน่นอน รวยแน่ ๆ เจ้าของขายเองไปแล้ว ล่าสุดจนถึงตอนนี้ ผู้เสียหายเริ่มเปิดเผยตัวตน และร้องไปยังเพจฯ ต่าง ๆ และมีกระแสข่าวว่าทางบริษัทเริ่มทยอยนัดเคลียร์ผู้เสียหายบางส่วนแล้ว แต่ยังไม่มีผู้เสียหายรายใดเข้าแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจว่าอย่างไร ? แชร์ข่าวธุรกิจส่อล่ม คนหนึ่งที่ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องนี้ และอ้างถึงตำรวจด้วย ก็คือ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ที่บอกว่า ได้ยินข้อมูล และเห็นคนเข้าไปแชร์คอมเมนต์ในโพสต์เฟซบุ๊กของตนเอง บางคนยอมรับว่าลงทุนไปเยอะ แต่ไม่ได้กำไร บางคนยอมรับว่าลงทุนเยอะคิดว่าตนเองไม่น่าไหว แต่ข้อมูลอีกด้านที่ได้ยินมา คือพอจะมีผู้เสียหายออกมาโพสต์ความเดือดร้อน ก็จะมีคนเข้าไปคุยกับผู้เสียหายทันที จึงตั้งข้อสังเกตว่า คงเป็นเพราะแบบนี้ถึงยังไม่มีใครแจ้งความดำเนินคดี คุณดารินทิพย์ ผู้สื่อข่าว สอบถามเรื่องนี้กับ ตำรวจ บก.ปคบ. ยืนยันว่าเห็นข่าวนี้แล้ว แต่จากการตรวจสอบ ยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายรายใดเข้าแจ้งความ จึงฝากถึงผู้เสียหาย ที่ได้รับความเสียหายจากธุรกิจดังกล่าวให้เข้าแจ้งความได้ ตำรวจจะได้สอบปากคำ และตรวจสอบพยานหลักฐาน ว่าพฤติการณ์ของธุรกิจเครือข่ายนี้ เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าถามตอนนี้ว่าผิดไม่ผิด คงเร็วเกินไปที่จะชี้ชัดได้ ส่วน ตำรวจ บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ ก็ยืนยันว่าทราบข่าวนี้แล้วเช่นกัน แต่ยังต้องตรวจสอบในรายละเอียดว่า พฤติการณ์จะเข้าข่ายความผิดกฎหมายใด โดยหากเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็จะเป็นอำนาจที่ตำรวจไซเบอร์ดำเนินการ แต่หากเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ก็จะเป็นอำนาจของตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการ