พาณิชย์จับตาราคาซื้อขายข้าวเปลือกใกล้ชิด ป้องกันฉวยโอกาสกดราคารับซื้อช่วงน้ำท่วม
วันที่ 8 ต.ค. 2567 เวลา 19:23 น.
วันนี้ (8 ต.ค. 67) นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ปัจจุบันอยู่ในห้วงเวลาที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเปลือกที่กำลังออกสู่ตลาด จึงได้สั่งการให้สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและนายตรวจชั่งตวงวัด ตรวจสอบผู้ประกอบการโรงสีและท่าข้าวในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญโดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่างซึ่งเป็นทางน้ำผ่านและภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ อาทิ กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี เพื่อดูแลไม่ให้มีการกดราคารับซื้อ มีการหักลดน้ำหนักความชื้นและสิ่งเจือปนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยมีการแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจน เปิดเผย ไม่คิดค่าชั่งน้ำหนักข้าวเปลือกที่รับซื้อ รวมทั้งใช้เครื่องชั่งและเครื่องวัดความชื้นที่ผ่านคำรับรองถูกต้องตามกฎหมาย จากการตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือก พบว่า ข้าวเปลือกเจ้า ความชื้นไม่เกิน 15% ราคา 9,300-9,800 บาท/ตัน ข้าวเกี่ยวสด ความชื้น 25% ราคา 8,300 – 8,800 บาทต่อตัน บางพื้นที่ข้าวเปลือกมีความชื้นสูง ราคาปรับลดตามคุณภาพความชื้น เนื่องจากเกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนกำหนดประกอบกับมีผลตกชุกในพื้นที่ และในการตรวจสอบวันที่ 7 ตุลาคม 2567 พบผู้ประกอบการใช้เครื่องวัดความชื้นคำรับรองสิ้นอายุ จำนวน 1 ราย นายตรวจชั่งตวงวัดได้จับกุมส่งพาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ ดำเนินการตาม มาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเตือนให้ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่แสดงราคารับซื้อตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อ หรือมีการคิดค่าชั่งน้ำหนักข้าวเปลือกที่รับซื้อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กรณีรับซื้อข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ ตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช 2489 กรณีใช้เครื่องชั่งตวงวัด ที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองหรือคำรับรองสิ้นอายุในการซื้อขายสินค้า ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีโกงเครื่องชั่งหรือใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการดัดแปลงแก้ไข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวด