น้ำท่วมเสียชีวิตเพิ่ม 6 คน สธ.กำชับลำพูนเฝ้าระวังมวลน้ำก้อนใหญ่
วันที่ 8 ต.ค. 2567 เวลา 16:42 น.
สธ.กำชับลำพูนเฝ้าระวังมวลน้ำก้อนใหญ่ อีก 7 จ.รับมือน้ำหลาก-น้ำทะเลหนุนสูง น้ำท่วมเสียชีวิตเพิ่ม 6 คน สูญหาย 1 คน ยอดเสียชีวิตสะสมแตะ 66 คน บาดเจ็บสะสม 2,381 คน วันนี้ (8 ต.ค.67) นพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้มีน้ำท่วมเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดสถานการณ์ใหม่ในจังหวัดชัยนาท บึงกาฬ และสงขลา พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6 คน ได้แก่ เชียงใหม่ 4 คน ตาก 1 คน และพิษณุโลก 1 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุ 14 ปี จมน้ำขณะเล่นน้ำริมถนนที่ติดกับทุ่งนา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 66 คน บาดเจ็บสะสม 2,381 คน และสูญหาย 1 คน ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังบุตรหลานไม่ให้เล่นน้ำเพราะมีความเสี่ยงเกิดอันตรายได้ หน่วยบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น 2 แห่ง ที่พระนครศรีอยุธยาและสุโขทัย รวมสะสม 107 แห่ง ยังคงต้องปิดให้บริการ 5 แห่ง อยู่ใน จ.เชียงใหม่ 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพศูนย์อนามัยที่ 1 โรงพยาบาลค่ายกาวิละ โรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่ เมโมเรียล และศูนย์สุขภาพชุมชนแม่ท่าช้าง ส่วนอีก 1 แห่ง คือ รพ.สต.บ้านวังลูกช้าง จ.พิจิตร นพ.สฤษดิ์เดชกล่าวต่อว่า ขณะนี้ระดับน้ำปิงใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ้นระยะวิกฤต คงเหลือน้ำท่วมขังใน อ.เมือง อ.สารภี อ.สันป่าตอง และ อ.หางดง เริ่มเตรียมการเข้าสู่ระยะฟื้นฟูหลังน้ำลด รวมทั้งดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบภัยที่อาจมีภาวะเครียดสูง ส่วน จ.ลำพูน ระดับน้ำที่ อ.ป่าซาง ลดลงแล้ว แต่ อ.เมือง ยังเพิ่มขึ้น ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะมาจาก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสูงขึ้นอีก 0.6-0.8 เมตร มีพื้นที่เสี่ยง 3 โซน คือ โซนที่ 1 ต.อุโมงค์ และ ต.เหมืองง่า รับน้ำจาก ถนนเลียบรางรถไฟ ลงสู่น้ำกวง โซนที่ 2 หมู่บ้านติดน้ำกวง ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอาจล้นเข้าท่วมบ้านเรือน และโซนที่ 3 รับน้ำจากหนองแฝก ลงสู่น้ำปิง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลานภายใน 3 วัน ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ในช่วงวันที่ 13-24 ตุลาคม 2567 จะมีน้ำทะเลหนุนสูงประกอบกับมวลน้ำหลากจากตอนบนลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้น เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ชุมชนนอกคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร ใน จ.สมุทรปราการ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม