ตร.เร่งหาสาเหตุคดีฆ่ายกครัว
วันที่ 8 ต.ค. 2567 เวลา 16:31 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คืบหน้าเหตุสลด ฆ่ายกครัว 4 ศพ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือภรรยาที่ฆ่าสามี ก่อนฆ่าลูกอีก 2 คน แล้วยิงตัวตายตาม ปัญหาอาจมาจากเรื่องหนี้สิน ด้านตำรวจรอผลเลือด คลี่ปมสงสัยวางยาสลบก่อนยิง จากกรณียิงกันเสียชีวิต 4 ศพ ภายในบ้านหลังหนึ่งเขตเทศบาลนครสงขลา โดยทั้ง 4 ศพ เป็นพ่อ แม่ ลูก ครอบครัวอดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครสงขลา โดยร่างผู้เป็นพ่อ อายุ 61 ปี และลูกชายอายุ 15 ปี นอนอยู่ใกล้กันที่โซฟาชั้นล่างของบ้าน ส่วนร่างผู้เป็นแม่ อายุ 47 ปี และลูกสาว อายุ 17 ปี อยู่ที่เตียงนอนชั้น 2 ของบ้าน ทั้ง 4 ศพ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะคนละ 1 นัด นอกจากนี้ ยังพบปืนพกสั้นตกอยู่ภายในห้องนอนของภรรยา 1 กระบอก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมง ตรวจสอบพบว่าผู้เป็นสามีมีปืนที่มีใบอนุญาตอยู่ 3-4 กระบอก ส่วนฝ่ายหญิงพบว่าก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่เทศบาลนครสงขลา แต่ได้ลาออกมาเป็นแม่บ้าน จากการสอบถามพยานแวดล้อมที่เป็นญาติ ทราบว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากปัญหาหนี้สินจากฝ่ายภรรยา เพราะภรรยาเคยโทรไปหาน้องสาวว่ากำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สิน จากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบว่ารู้จักและสนิทสนมกับชายอายุ 61 ปี ที่เป็นเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี เพราะเป็นคนอัธยาศัยดี พูดคุยกันทุกวัน แต่ตัวภรรยาค่อนข้างเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ปกติช่วงเย็น ๆ ฝ่ายสามีจะออกจากบ้านมาเดินออกกำลังกายทุกวัน แต่เมื่อวานนี้ไม่เห็นออกมา และมารู้อีกทีตอนเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว ได้ยินเสียงปืนแค่นัดเดียวเท่านั้น น่าจะเป็นนัดสุดท้ายที่ภรรยายิงตัวตาย ส่วนอีก 3 นัด ไม่ได้ยิน เพื่อนบ้านรายนี้ยังเผยเรื่องหลอน ๆ เพราะช่วงบ่ายโมงก่อนพบศพ ตนเองเห็นชายเจ้าของบ้านออกมายืนที่หน้าบ้าน ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาได้เสียชีวิตมาสักพักแล้ว มารู้ทีหลังจากเพื่อนบ้านอีกคนว่าชายเจ้าของบ้านเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ชั่วโมง รายงานข่าวแจ้งว่ามีประเด็นข้อสงสัยว่าภรรยาอาจจะมีการวางยาสามีและลูกทั้ง 2 คน และตัวเอง ก่อนลงมือก่อเหตุหรือไม่ เพราะว่าสภาพศพทั้ง 3 คนมีการเอาหมอนมารองยิงที่ศีรษะ และไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ขัดขืนหรือดิ้นรนอะไร ก่อนที่ภรรยาจะยิงตัวตายตามเป็นคนสุดท้าย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรอผลการตรวจพิสูจน์เลือดของทั้ง 4 คน ที่ส่งไปพิสูจน์ที่ฝ่ายนิติเวชของโรงพยาบาลสงขลา โดยเมื่อช่วง 15.30 น. ที่ผ่านมา ญาติผู้เสียชีวิตได้นำรถฉุกเฉินจำนวน 4 คัน มารอรับศพ เพื่อเคลื่อนย้ายไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแหลมทราย ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า