ผัวร้อง เมียหลายใจ พาชู้คนที่ 5 เข้าบ้าน

วันที่ 8 ต.ค. 2567 เวลา 16:34 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สามีสุดทน ! ร้องเมียแอบไปมีสัมพันธ์กับชายชู้ถึง 5 คน แถม 4 คน ก่อนหน้านี้ เป็นข้าราชการ ตำรวจระดับสูง จนตนเองถูกขู่ฆ่าจะเอาชีวิต บอกได้คำเดียวเลยว่า สามีใจเย็นมาก ไม่มีการลงไม้ลงมือ และได้สอบถามภรรยาด้วยเหตุผลว่าทำไมถึงได้ทำกันแบบนี้ ส่วนตัวภรรยาก็นอนอยู่ใต้ผ้าห่ม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนตัวชายชู้ก็รีบลุกขึ้นจากเตียงมาสวมเสื้อผ้า คลิปนี้ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ร้องทุกข์ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจับได้ว่าเมียของตนเอง อายุ 35 ปี ที่อยู่กินกันมากว่า 10 ปี และจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อปี 2564 แอบพาชายชู้มามีสัมพันธ์ในบ้านตลอด - คนแรก จับได้ตั้งแต่ 2-3 ปีแรกที่คบกัน เป็นข้าราชการตำรวจชั้นสูง ระดับผู้กำกับการ ทางภาคเหนือ แต่ภรรยาอ้างว่านับถือเป็นพ่อ-ลูกบุญธรรมกัน - คนที่ 2 ประมาณปี 2561 เป็นข้าราชการตำรวจเช่นกัน ระดับรองผู้กำกับการ อยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก - คนที่ 3 ประมาณปี 2563 ก็ยังเป็นข้าราชการตำรวจระดับสูง ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ - คนที่ 4 ประมาณปี 2565 เป็นข้าราชการตำรวจ สังกัดทางหลวง ซึ่งคนนี้ภรรยาอ้างว่าเป็นเพื่อนกัน ที่ผ่านมามีการนัดให้มาเจอตนเองอีกด้วย แต่ท้ายที่สุดก็มาจับได้ภายหลัง ซึ่งทั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมา ภรรยาปฏิเสธมาโดยตลอด เนื่องจากตนเองไม่สามารถจับได้คาหนังคาเขา และเมื่อไม่มีหลักฐานมัดตัว ตนเองจึงต้องทำใจยอมรับและให้อภัยเรื่อยมา เพราะความที่รักภรรยา แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่เชื่อใจ คอยเฝ้าจับตาดูภรรยามาตลอด กระทั่งมาเจอกับตา วันที่ 24 มิถุนายน ภรรยาแอบพาชู้คนที่ 5 มานอนที่เรือนหอที่สร้างเอาไว้ที่จังหวัดพิษณุโลก หลังภรรยาอ้างว่ากลับไปทำธุระเรื่องที่ดิน แต่ตนเองเอะใจว่าทำไมล่วงหน้าหลายวัน จึงเดินทาง มาแบบไม่บอกกล่าว ก็เจอภาพบาดตา แต่ภรรยาก็ยังอ้างอีกว่าไม่ได้มีอะไรกัน แค่เมา และมานอนเล่นกันเฉย ๆ ส่วนตัวชายชู้ก็ไม่พูดอะไร ก่อนทราบภายหลังว่าเป็นผู้รับเหมาถมดินหน้าบ้าน ที่แอบคุยกับภรรยามานานแล้ว ส่วนปืนที่พกไปในวันเกิดเหตุยอมรับว่าเป็นปืนปลอม นำไปเพื่อป้องกันตัว ส่วนฟางเส้นสุดท้ายที่มาร้องทุกข์วันนี้ เนื่องจากภรรยาได้มอบหมายให้คนมาขนของออกจากบ้านที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่หามาด้วยกัน รวมถึงวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการงัดแงะเข้ามาขโมยเงินสดกว่า 3 แสนบาท สร้อยคอทองหนัก 5 บาท และพระเลี่ยมทองอีก 3 องค์ ซึ่งได้มีการแอบสับเปลี่ยนเอาพระปลอมทิ้งไว้ด้วย จึงเชื่อว่ามีการวางแผนมาอย่างดี และยังถูกติดตาม GPS จากโทรศัพท์ และถูกข่มขู่เอาชีวิต จึงได้ตัดสินใจจะดำเนินการฟ้องหย่าและฟ้องชู้ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิต ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือให้ โดยเฉพาะฟ้องคดีอาญาและฟ้องร้องหย่า ซึ่งจะดำเนินการประสานกระทรวงยุติธรรมให้ดำเนินการคุ้มครองพยานให้