ตอบไม่ได้ ปมรถบัสเปลี่ยนเป็น NGV

วันที่ 8 ต.ค. 2567 เวลา 07:04 น.

สนามข่าว 7 สี - กรณีรถบัสทัศนศึกษาเกิดเพลิงไหม้ ล่าสุด กรรมาธิการคมนาคม สมาชิกวุฒิสภา เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล ซึ่งก็มีการเผยถึงสาเหตุที่รถบัสเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากเพลาหัก เพราะน้ำหนักเกิน แต่เมื่อถามถึงปมการเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิง NGV หน่วยงานที่ดูแลกลับบอกไม่ได้ และยังมีเรื่องข้อเสนอต่อการป้องกันไม่ให้เหตุเช่นนี้เกิดขึ้นอีก  ที่ประชุมกรรมาธิการฯ โดยมี นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการคมนาคม สว. ก็เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงมาชี้แจง โดยช่วงแรกก็ไล่เรียงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อมูลของบริษัทเจ้าของรถบัสและคนขับรถ ว่ามีใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ ตัวรถบัสก็มีการจดทะเบียน 2 ครั้ง เมื่อปี 2513 และจดทะเบียนใหม่ในปี 2561 หลังจากดัดแปลงโครงคัสซี ขนาดสัดส่วน จำนวนที่นั่ง และตัวถัง พร้อมกับทำประกันอุบัติอุบัติเหตุไว้กับ 2 บริษัทประกันภัย ระหว่างที่สอบถาม-ให้ข้อมูล จุดพีกก็มาถึงเมื่อประธานฯ จี้ถามถึงการเปลี่ยนจากน้ำมันดีเซล ไปเป็นก๊าซ CNG ในปีใด ก่อนหรือหลังมีการเปลี่ยนแปลงจดทะเบียน แต่ ผอ. กองจัดระบบการจราจรทางบก กลับตอบได้แบบไม่ตรงประเด็น เพราะครั้งแรกที่จดทะเบียนรถบัสก็ใช้เครื่องยนต์ดีเซล แต่กลับไม่มีข้อมูลว่า มีการขอเปลี่ยนเป็นก๊าซ NGV กับกรมการขนส่งทางบกเมื่อใด อีกประเด็นที่ถามกัน คือ ปมของเพลารถบัสที่หัก และจำนวนถังก๊าซ CNG ที่รถบัสควรมี ซึ่ง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก บอกว่า ในส่วนของการใช้ก๊าซฯ แล้วแต่สมรรถนะรถ แต่จะมีการกำหนดว่าสามารถใช้ได้กี่ถัง ซึ่งรถในลักษณะดังกล่าวควรมี 5-6 ถัง ส่วนปมเพลาหัก อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้น คาดน่าจะเกิดจากน้ำหนักเกิน จึงขอให้รอรายงานของตำรวจ ขณะที่ นายวุฒิชาติ ก็สรุปผลขั้นต้น มุ่งที่อายุการใช้งานของรถบัสที่ กมธ. เห็นว่ารัฐควรกำหนดว่าการครอบครองและโครงคัสซีควรมีอายุการใช้งานเท่าใด เปลี่ยนตัวถังได้ไม่เกินกี่ครั้ง ซึ่งวันที่ 16 ตุลาคมนี้ กมธ. จะไปตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคม และจะหยิบยกประเด็นเหล่านี้หารือกันต่อไป ส่วนกรณีการเปรียบเทียบรูปรถและประตูฉุกเฉินด้านนอกนั้น กมธ. มองว่าการติดตั้งในลักษณะดังกล่าวที่อยู่สูงถึง 2 เมตร อาจจะต้องมีการปรับให้คนภายนอกสามารถเปิดได้ ซึ่งควรจะมีความสูงอยู่ที่ 1.2-1.5 เมตร แทน เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุ บุคคลภายนอกที่พบเห็นจะได้สามารถช่วยเหลือได้ทันที ส่วนปม คัสซี ก็มองว่า ข้อมูลที่ได้รับ รถบัสคันดังกล่าวมีการใช้งานมาแล้ว 54 ปี รวมถึงมีการเปลี่ยนตัวถังด้วย แม้สภาพภายนอกจะดูใหม่ แต่อาจจะมีอุปกรณ์บางส่วนไม่ได้รับการซ่อม  ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก จะมีการออกคำสั่งให้รถโดยสารเข้ามาตรวจสภาพภายใน 60 วัน และติดตามผู้ประกอบการจากบรรดาผู้ประกอบการที่อยู่ในเงื่อนไข เพื่อป้องกันการดัดแปลงสภาพก่อนการตรวจสอบ ขณะที่ สว. ก็เสนอญัตติให้สมาชิกอภิปรายและเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา ฝากถึงรัฐบาลพิจารณา โดย สว. ส่วนใหญ่เห็นว่า เหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาไม่ควรเกิดขึ้น โดย นางสาวรัชนีกร ทองทิพย์ ถึงกับอภิปรายด้วยน้ำตาว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการทุจริตกินบ้านกินเมือง ในการใช้เงินดูแลผู้มีหน้าที่ จึงขอให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ด้าน พล.ต.ท.วันไชย เอกพรพิชญ์ ยกเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือเซวอล ประเทศเกาหลีใต้ เป็นบรรทัดฐานว่า เหตุการณ์นั้น นายกรัฐมนตรี ประกาศลาออก ประธานาธิบดีโดนถอดถอนออกจากตำแหน่ง จึงถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยงานของไทยว่าจะดำเนินการได้อย่างไรบ้างต่อเรื่องนี้