พระเณร ช่วยแบกโลงศพ ลุยน้ำท่วมขึ้นเมรุ ทำพิธีฌาปนกิจศพ

วันที่ 5 ต.ค. 2567 เวลา 18:38 น.

น้ำทะลัก พระเณร ช่วยญาติโยมแบกโลงศพ 3 โลง ฝ่าน้ำท่วมขึ้นเมรุ ทำพิธีฌาปนกิจศพ เจ้าอาวาส เผย น้ำท่วมหนักในรอบ 50 ปี เก็บของไม่ทัน ต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนกุฎิชั้น 2 พร้อมเต่า-สุนัข วันนี้ (5 ต.ค.67) สถานการณ์แม่น้ำปิงทะลักท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร เดือดร้อนพระเณรวัดป่าแพ่งต้องช่วยญาติโยมแบกโลงศพลุยน้ำไปเผาถึง 3 ศพ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดป่าแพ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเมืองสมุทร ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยถนนเมืองสมุทรถูกน้ำท่วมสูงกว่า 30 - 40 เซนติเมตร ตั้งแต่บริเวณสี่แยกร้านที่นอนปีนัง ตัดกับถนนอัษฏาธร ยาวไปจนถึงสะพานรัตนโกสินทร์ข้ามแม่น้ำปิงไปยังฝั่งฟ้าฮ่าม ขณะที่ภายในวัดมีน้ำท่วมสูงระดับอก หรือประมาณ 1.5 เมตร น้ำได้ทะลักเข้าท่วมภายในศาลาที่ใช้สำหรับตั้งบำเพ็ญกุศลศพ กุฎิเจ้าอาวาส และโบสถ์ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ จมอยู่ในน้ำ รวมทั้งโลงเย็น เนื่องจากพระและเณรขนย้ายทรัพย์สินต่าง ๆ ที่มีจำนวนมากหนีน้ำไม่ทัน โดยพระทั้งหมด 14 รูป และเณรอีก 2 รูปต้องอพยพขึ้นไปอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของกุฎิเจ้าอาวาส นอกจากนี้ ยังต้องนำเตาซูคาต้าขนาดใหญ่ที่เลี้ยงไว้ 2 ตัว และสุนัขหนีน้ำท่วมขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 ด้วย ส่วนเณรยังต้องช่วยกันไปค้นหาเต่าตัวเล็กอีกประมาณ 5 - 6 ตัวที่ทางวัดเลี้ยงไว้ แม้ทั้งหมดเป็นเต่าน้ำจืด แต่ทางวัดเกรงว่าจะหลุดหายไปกับกระแสน้ำ ด้านพระมหาประเสริฐ ภททจาโร เจ้าอาวาสวัดป่าแพ่ง กล่าวว่า น้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมในวัดประมาณ 5 ทุ่ม-เที่ยงคืนของคืนที่ผ่านมา ขณะที่ในวัดมีศพตั้งสวดที่ศาลาอยู่ 4 ศพ ทั้งหมดมีกำหนดจะฌาปนกิจในช่วงเที่ยงวันนี้ แต่ช่วงเช้าน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้น จึงได้ปรึกษากับญาติโยม เพราะเกรงว่าหากเลื่อนระยะเวลาออกไป และน้ำท่วมสูงกระแสไฟฟ้าอาจถูกตัด ญาติของผู้เสียชีวิต 3 ศพ จึงตัดสินใจจะเผาตามกำหนดเดิมที่วางไว้ ส่วนอีก 1 ศพ ญาติขอนำไปวัดในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ดแทน ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาญาติโยมพระและเณรจึงช่วยกันแบกโลงศพลุยน้ำท่วมจากศาลาวัดไปฌาปนกิจที่เมรุด้านหลังวัด ซึ่งระดับน้ำก็ท่วมสูงเช่นเดียวกัน ส่วนน้ำท่วมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในรอบ 50 ปี ตั้งแต่บวชอยู่ที่วัดครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด น้ำท่วมถึงระดับอก วัดได้รับความเสียงหายแทบทั้งหมด เพราะเก็บข้าวของไม่ทัน แม้จะช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นน้ำไว้ที่ประตูหน้าวัด แต่น้ำก็ทะลักเข้ามา เพราะมีรถยนต์ขับฝ่ากระแสน้ำจนกระสอบทรายที่วางไว้พังเสียหาย ซึ่งพระและเณรของวัดทั้งหมดยังกังวลว่าหากน้ำยังท่วมสูงจะไม่มีญาติโยมนำอาหารมาถวายในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ และพระเณรจะไม่มีอาหารฉัน โดยเมื่อวานนี้พระยังได้นำอาหารไปช่วยญาติโยมที่น้ำท่วม แต่ไม่คิดว่าช่วงค่ำน้ำจะทะลักท่วมวัด