ไรเดอร์หัวร้อน! ซัดตำรวจนำขบวนเด็กกลับจากเข้าค่ายลูกเสือ

วันที่ 3 ต.ค. 2567 เวลา 17:07 น.

เดือดจัด! "ไรเดอร์หัวร้อน" ทำร้ายร่างตำรวจนำขบวนเด็กกลับจากเข้าค่ายลูกเสือ ซ้ำยังเตะกระจกมองข้างรถตำรวจจนกระเด็น อ้างเป็นต้นเหตุทำรถเฉี่ยวชนจนบาดเจ็บ     จากกรณีโซเชียลแชร์คลิปวิดีโอ เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งถูกชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกายโดยการชกต่อย เอามือค้ำคอ และใช้เท้าเตะกระจกมองข้างรถเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.18 น. วานนี้ (2 ต.ค. 67) ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนมัธยมชื่อดัง แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถาม รปภ. ของโรงเรียนดังกล่าว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะเกิดเหตุมี น.ส.ศิริคูณ หัวหน้าชุด รปภ.และนายสุไบมัน รปภ. เข้าระงับเหตุไว้ได้ จากการสอบถาม น.ส.ศิริคูณ ทราบว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและลูกน้องทำหน้าที่อยู่บริเวณประตูทางเข้าโรงเรียน ได้มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจขับเข้ามา โดยมีรถจักรยานยนต์ของไรเดอร์ ขับตามมาติด ๆ ตนจึงห้ามรถทั้ง 2 คัน เข้าไปภายในโรงเรียน ให้จอดบริเวณใกล้ประตูทางเข้า และถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยตนบอกทั้งสองฝ่ายว่าเข้าไปในด้านในไม่ได้ จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้ลงมาและมีปากเสียงกัน ทำให้ชายที่ขี่รถจักรยานยนต์ มีอารมณ์ฉุนเฉียว เข้าทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเตะกระจกมองข้างรถตำรวจจนหลุดทั้งสองข้าง  ซึ่งทั้งสองมีเรื่องกันมาก่อนตั้งแต่แยกวงศ์สว่าง โดยชายที่รถจักรยานยนต์ ได้มีการขับเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์คันอื่น แต่เขาหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นต้นเหตุ ซึ่งไม่ได้เฉี่ยวชนกับรถตำรวจ โดยรถเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำขบวนรถเด็กนักเรียนของโรงเรียนใกล้เคียงกลับจากเข้าค่ายลูกเสือ โดยเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับโรงเรียนนี้ แค่เขาขับเข้ามามีเรื่องกันตรงจุดนี้ หลังเกิดเหตุ เวลา 16.00 น. ส.ต.ท.วิโรดม อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี ว่า ขณะตนขับรถยนต์นำรถขบวนรถบัสนักเรียน จำนวน 8 คัน กลับจากเข้าค่ายลูกเสือที่ จ.สระบุรี ขณะมาถึงบริเวณเชิงทางลงสะพานข้ามแยกประชาชื่น ได้ขับรถปิดทางการเดินด้านซ้ายมือ เพราะเกรงว่าจะมีรถจากช่องทางดังกล่าวเปลี่ยนช่องทางเข้ามาในช่องทางของรถบัส และจะทำให้เกิดอุบัติเหตุกับรถบัสนักเรียน ซึ่งมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์หยุดให้ทาง แต่ได้มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง ซึ่งมีนายสหภาพ เป็นผู้ขับขี่มาและหยุดรถไม่ทัน เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์อื่น จากนั้น ได้ขี่ตามรถของตนมาจนถึงที่เกิดเหตุลานจอดรถที่เกิดเหตุ และได้มาต่อว่าอย่างรุนแรง ตนจึงบอกให้นายสหภาพ ไปแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุของ สน.ประชาชื่น และตนจะตามไปพบหากเป็นความผิดของตน พร้อมจะยินดีรับผิดชอบ แต่นายสหภาพ ไม่พอใจต่อยที่ใบหน้าจำนวน 2 ครั้ง จนศีรษะไปกระแทกเสาไฟ และนอกจากนั้นนายสหภาพ ได้เดินไปเตะที่กระจกมองข้างรถยนต์ทั้งสองข้างพังเสียหาย จากการสอบถามนายต้า ผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ขณะเกิดเหตุตนมีลูกค้าเป็นนักศึกษาซ้อนท้ายมาด้วย กำลังมุ่งหน้าไปส่งที่วงศ์สว่าง 11 โดยรถยนต์ตำรวจได้ทำการปิดกั้นถนนกะทันหัน ทำให้รถจักรยานยนต์ด้านหน้าชนกัน และรถจักรยานยนต์ของตนเบรกไม่อยู่ จึงไปชนกับรถจักรยานยนต์ซ้ำจนรถล้ม และหัวเข่าตนกระแทกพื้น ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์แจ้งว่ารถตำรวจเป็นต้นเหตุ ให้ตนขับตามมา ตนจึงขับตามรถตำรวจมา ส่วนรถจักรยานยนต์ อีก 2 คัน ได้ขับขึ้นสะพานไป ซึ่งตนไม่รู้ว่าไปไหน เมื่อตนตามมาเจอ ก็มีเรื่องชกต่อยกัน เพราะคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ตนรับไม่ได้ และถ้าตำรวจยืนยันไม่ซ่อมรถให้ตน จึงได้เตะรถเขาคืน ก็ต่างคนต่างซ่อมไป ตนโกรธเขา เพราะเป็นใครก็โกรธ เกิดเหตุรถชนโดยเขาเป็นตนเหตุ เขาไม่จอดรถลงมาดู เขาอ้างว่าเขาทำงานอยู่ หากตนเสียชีวิตไปจะทำยังไง คำพูดเขาทำให้ตนฟิวส์ขาด ตอนนี้คุยกันไม่ได้ ส่วนเรื่องรถชนกัน ให้ตนกลับไปดูที่พื้นที่เกิดเหตุ ส่วนที่ สภ.เมืองนนทบุรี เป็นเรื่องทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สิน รถตนที่เสียหายเกิดจากชนกับรถจักรยานยนต์ จนเจ็บที่หัวเข่า แต่เขาเป็นต้นเกตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความและส่งตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจร่างกาย โดยหลังจากนี้จะนัดสอบปาดคำทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป