รวบแล้วหนุ่มเมียนมาหื่น แกล้งเป็นพลเมืองดีนำทางสาว ก่อนลวงไปซอยเปลี่ยวพยายามข่มขืน

วันที่ 3 ต.ค. 2567 เวลา 08:30 น.

จากเหตุการณ์นาทีชีวิต ซึ่งกล้องหน้ารถพลเมืองดีบันทึกภาพได้ ขณะที่คนร้ายและผู้เสียหายได้จอดรถจักรยานยนต์ 2 คันขวางถนนอยู่ โดยมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวนอนอยู่ที่พื้นถนน ส่วนคนร้ายสวมเสื้อใส่กางเกงบ็อกเซอร์ พอเห็นรถยนต์ของพลดีมาจอดแล้วเปิดไฟสูงใส่ คนร้ายจึงรีบลุกขึ้นขยับรถจักรยานยนต์ของ ผู้เสียหายเพื่อหลบทางให้กับรถยนต์ที่กำลังจะวิ่งผ่านไป เมื่อผู้เสียหายเห็นรถยนต์ของพลเมืองดีจอดอยู่ก็จะเดินหนีเพื่อมาหาพลเมืองดีให้ช่วยเหลือ แต่ถูกคนร้ายได้ดึงตัวเอาไว้ ทำทีเป็นลักษณะคล้ายแฟนกัน กระทั่งผู้เสียหายสบโอกาสที่คนร้ายเผลอขยับรถ ก็รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดมาหาพลเมืองดีที่รถยนต์เพื่อขอความช่วยเหลือทันที ก่อนที่คนร้ายจะตกใจแล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดคืนวันที่ 27 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 และ พ.ต.ท มนต์ชัย เหลืองเหลืองประเสริฐ รองผกก.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากกรณีผู้เสียหายได้มีการแจ้งความว่าถูกพยายามข่มขืน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สามารถติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้แล้ว จากข้อมูลของผู้เสียหาย ผลจากวิทยาศาสตร์และการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จนทราบว่าคนร้ายคือ นายโซ โท วิน อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา ทำงานเป็นเด็กปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนโรจนะ สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้ตามหาแฟนโดยติดจีพีเอสแฟนไว้ แต่ดูจีพีเอสไม่ค่อยเป็น จึงได้แวะถาม นายโซ โท วิน จากนั้นได้พาไปตามจีพีเอส แต่สุดท้ายก็คือหลอกผู้เสียหายไปที่เกิดเหตุ แล้วบังคับให้ผู้เสียหายแก้ผ้า และพยายามจะข่มขืน แต่ปรากฎว่ามีพลเมืองดีผ่านมาก็เลยรอดจากการถูกข่มขืน ขณะเดียวกัน จากข้อมูลของพนักงานปั๊มน้ำมัน ระบุพฤติการณ์ นายโซ โท วิน ระบุว่า กับพนักงานผู้หญิงคนอื่น ไม่ว่าจะเด็กปั๊มหรือคนที่มาเติมน้ำมัน มีพฤติการณ์เกี่ยวกับเพศอยู่แล้ว ชอบมองหรือลวนลามทางสายตา จึงน่าเชื่อว่าเขาพยายามจะข่มขืนผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายจริง โดยเคยล่วงละเมิดทางเพศกับพนักงานปั๊มน้ำมันด้วยกันด้วย หลังจับกุมตัวได้ ชุดสืบสวนพร้อมพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายโซ โท วิน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ บริเวณถนนเลียบคลองวัว หมู่ที่ 10 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้พบว่าคืนวันเดียวกัน หลังจากที่ก่อเหตุในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหายังขี่รถจักรยานยนต์ไป จ.ปทุมธานี และมีพฤติการณ์ขับตามรถหญิงสาวอีกราย แต่รายนี้ได้ขับเข้าซอยหมู่บ้าน ทำให้ผู้ต้องหาต้องขับรถวนกลับออกมา กระทั่งมาถูกจับกุมได้ในที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตั้งข้อหา “พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตน เป็นบุคคลอื่น และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือ กระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ ในร่างกาย”