บิ๊กต่าย เผยคนขับรถบัสยอมรับได้ยินเสียงลูกสูบดัง ขับต่อจนรถเสียหลัก

วันที่ 2 ต.ค. 2567 เวลา 16:27 น.

ไฟไหม้รถบัส บิ๊กต่าย เผยคนขับรถบัส ยอมรับได้ยินเสียงลูกสูบของรถดัง แต่ไม่ได้จอดดู ขับต่อจนรถเสียหลัก แสดงให้เห็นว่า คนขับรู้อยู่แล้วว่ารถมีปัญหา แต่ไม่หยุดรถ อพยพผู้โดยสาร เป็นความประมาทเลินเล่อที่ก่อให้เกิดความสูญเสียร้ายแรง ไฟไหม้รถบัส วันนี้ (2 ต.ค.67) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากนายสมาน คนขับรถ เข้ามอบตัวที่ สภ.วิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ก่อนที่จะนำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.คูคต จังหวัดปทุมธานี โดยนายสมานให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ถึงองค์ประกอบความผิด รวมทั้งยังต้องสอบสวน และพิจารณาถึงความผิดของผู้ประกอบการด้วย “พยานในที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงเหมือนยางล้อหน้าระเบิด จนทำให้รถเสียหลัก ชนกับรถที่ขับอยู่บริเวณนั้น ก่อนจะได้ไปชนแบริเออร์ ซึ่งจากการสอบปากคำ นายสมาน อ้างว่า ได้ยินเสียงลูกสูบของรถดัง แต่ไม่ได้จอดดู และขับรถต่อ จนรถเสียหลักดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า คนขับรู้อยู่แล้วว่ารถมีปัญหา แต่ไม่หยุดรถ อพยพผู้โดยสาร และ ตรวจสอบสภาพรถ จึงแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่อที่ก่อให้เกิดความสูญเสียร้ายแรง” พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าว ส่วนการตรวจรถบัสคันเกิดเหตุ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ดำเนินการตรวจสภาพรถเรียบร้อยแล้ว แต่ยังต้องเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่ม เช่น  รอยล้อรถ และพยานหลักฐานอื่นอีกหลายอย่าง เพื่อประกอบในสำนวน โดยเฉพาะ GPS ของรถคันดังกล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุใช้ความเร็วเท่าไหร่ สำหรับผู้ขับขี่ พนักงานสอบสวน สภ.คูคต แจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4), 78, 157, 160 วรรคสอง ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้ ณ สภ.คูคต เตรียมที่จะนำตัวไปฝากขัง