ผวาน้ำเอ่อท่วมกัดเซาะบ้าน กลัวพังเหมือนในข่าว จ.พระนครศรีอยุธยา
วันที่ 1 ต.ค. 2567 เวลา 07:09 น.
สนามข่าว 7 สี - ชาวบ้านลุ่มน้ำภาคกลาง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ผวาน้ำเอ่อท้นตลิ่ง เร่งหาทางป้องกัน บางจุดเสริมคันกั้นสูง 2 เมตร ขณะที่บางจุดกระแสน้ำไหลแรง เริ่มกัดเซาะถนนและบ้านเรือนขยายวงกว้าง ผวาน้ำเอ่อท่วมกัดเซาะบ้าน กลัวพังเหมือนในข่าว จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เห็นคือ สภาพพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำเจ้าพระยา ขณะนี้น้ำเอ่อท่วมชุมชนและถนน โดยกระแสน้ำที่ไหลแรง ยังกัดเซาะถนนหลายจุด และกัดเซาะรอบ ๆ บ้านเรือนประชาชนหลายครอบครัว ต้องหาทางป้องกัน และเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเกรงว่าบ้านจะพังทลายเหมือนบ้านหลายหลังริมแม่น้ำในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งผู้นำชุมชนแก้ปัญหาชั่วคราว โดยนำกระสอบทรายมากั้น เพื่อเบี่ยงเบนกระแสน้ำแรง และป้องกันการกัดเซาะบริเวณตัวบ้าน ไม่ให้ทรุดและพังไปมากกว่านี้ ผู้รับเหมาเร่งซ่อมคันดิน หลังพังยาว 200 เมตร จ.อ่างทอง ส่วนหมู่ที่ 2 ตำบลบางสเด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวในแม่น้ำเจ้าพระยา กัดเซาะคันดินที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเขื่อนเรียงหิน ไหลลงในแม่น้ำยาวเกือบ 200 เมตร ซึ่ง นายรักศักดิ์ เทียนไชย นายอำเภอป่าโมก ประสานงานให้ผู้รับเหมาสร้างเขื่อน ซ่อมแซมตลอดทั้งวัน เพื่อให้ทันกับระดับน้ำที่สูงขึ้นต่อเนื่อง พร้อมเสริมความแข็งแรงให้แน่นหนา ป้องกันการทรุดตัวเพิ่ม ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้คันดิน บอกว่า หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซ่อม ก็เบาใจขึ้นได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เพราะระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น ลำน้ำชี เอ่อท่วมพื้นที่ทำการเกษตร จ.มหาสารคาม ภาคอีสาน มวลน้ำมาจากจังหวัดชัยภูมิ ที่ไหลลงลำน้ำพอง รวมทั้งมวลน้ำจากจังหวัดขอนแก่น ที่ไหลรวมกันในลำน้ำชี ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำชี ได้รับผลกระทบแล้ว ที่บ้านกุดร่อง ตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม พบแปลงปลูกข้าวโพดของชาวบ้าน เริ่มมีน้ำหลากท่วมพื้นที่ปลูก เจ้าของบอกว่าลงทุนปลูกข้าวโพด 4,000-5,000 บาท ต้นข้าวโพดกำลังออกฝัก ก็คงต้องเก็บฝักขายก่อนเวลา ทั้งที่เมล็ดด้านในยังไม่เต็มฝัก ก็ดีกว่าปล่อยต้นข้าวโพดจมน้ำยืนต้นตาย