สนธิญา ยื่นดีเอสไอสอบ แม่ตั๊ก
วันที่ 30 ก.ย. 2567 เวลา 16:32 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สนธิญา ร้องดีเอสไอ รับเรื่องดำเนินคดี แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ มองคดีนี้ยังไม่มีเจ้าภาพหวั่นกระบวนการล่าช้า สนธิญา ยื่นดีเอสไอสอบ แม่ตั๊ก ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา กมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อให้พิจารณาดำเนินคดีกับ นางสาวกรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก และ นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ หลังมีผู้เสียหายหลายร้อยคน ซื้อทองคำจากร้านทองของทั้งคู่ไปแล้วมีปัญหาไม่สามารถนำไปขายต่อได้ นายสนธิญา ระบุว่า ส่วนกระแสข่าวที่มีภาพ แม่ตั๊ก นั่งกินข้าวร่วมกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั้น มองว่า ภาพดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนและผู้เสียหายไม่สบายใจและกังวลเรื่องการทำคดี นี่จึงเป็นสาเหตุที่ตนเองนำเรื่องนี้มาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษไต่สวนรับเรื่อง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ด้านพันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่องเผยว่า เบื้องต้นกฎหมายที่อาจเกี่ยวข้องกับกรมสอบสวนคดีพิเศษคือ เรื่องกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องที่เกี่ยวกับฉ้อโกงประชาชน โดยส่วนนี้ต้องไปดูว่ามีการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ที่เป็นลักษณะการฟอกเงินหรือไม่ ซึ่งต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าข่ายอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ ส่วนเรื่องภาพถ่ายแม่ตั๊กกับนายตำรวจนั้น โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกว่า ขณะนี้ก็ยังไม่ปรากฏข้อบ่งชี้ว่านายตำรวจที่ปรากฏภาพมีการแทรกแซงเรื่องคดี เช่นเดียวกับ บุคคลมีชื่อเสียงที่ร่วมไลฟ์ขายของกับแม่ตั๊ก จะมีความผิดด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องดูที่พฤติการณ์ตัวบุคคลอีกครั้ง และพิจารณารายละเอียดต่างๆร่วมด้วยเช่น เรื่องการให้ค่าตอบแทน และเรื่องเจตนาการรับงาน เรียกคนไลฟ์สดร่วม แม่ตั๊ก สอบปากคำ จับตาสัปดาห์นี้ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค จ่อหมายเรียกคนดังร่วมไลฟ์สดกับแม่ตั๊ก โดยพลตำรวจตรี วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งมีการสอบปากคำพยานบุคคลเหล่านี้ไปแล้วในบางส่วน พยานหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมามอบให้พนักงานสอบสวนนั้นมีค่อนข้างมาก เป็นคดีต่างกรรมต่างวาระ ผู้เสียหายมีหลายพื้นที่ จึงอาจต้องใช้เวลาในการทำงาน แต่ทางเจ้าหน้าที่จะพยายามเร่งรัดให้เร็วที่สุด และ ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพราะถือเป็นคดีละเอียดอ่อน เป็นที่จับตามองของสังคม ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้คดีจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนกรณีคนดังร่วมไลฟ์สด ขายทองแม่ตั๊ก พลตำรวจตรี วิทยา ยืนยันว่า จะมีการเรียกเข้ามาแน่นอนโดยจะเป็นการเรียกให้เข้ามาชี้แจง และต้องดูถึงพยานหลักฐานข้อเท็จจริงยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพราะบางคนอาจจะรู้หรือไม่รู้ ต้องดูเป็นรายไปว่าใครสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ หากพบผู้ที่มาร่วมไลฟ์สดกระทำความผิด ก็พร้อมจะแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เจนนี่ เปิดเบื้องหลังร่วมไลฟ์สด แม่ตั๊ก ด้านเจนนี่ เปิดหมดเปลือก แฉเบื้องหลัง แม่ตั๊ก ถึงเรื่องราวการเคยร่วมงานไลฟ์สดกับ แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ โดยบอกว่า ตนและสามีรู้จักกับแม่ตั๊กมาประมาณ 3 ปี ใช้คำว่า สนิท ได้เลย เริ่มต้นรู้จักกันจากการที่ตนถูกว่าจ้างให้ไปไลฟ์รีวิวโพรโมตสินค้าตัวใหม่ ที่ตัดสินใจรับงานก็เพราะเห็นเขาจ้างคนดังหลายคนแล้วจึงเกิดความเชื่อใจ และทำงานด้วยมาเรื่อย ๆ แต่จุดแตกหักมันอยู่ตรงที่ครั้งนึงเขาจ้างเน็ตไอดอลคนหนึ่งมาไลฟ์ด้วย และบุคคลนั้นต่อว่าด่าทอเจนนี่กลางไลฟ์ โดยที่แม่ตั๊กพร้อมทีมงานตรงนั้นยืนหัวเราะเห็นเป็นเรื่องสนุก หลังจากวันนั้นจึงตัดสินใจยุติความสัมพันธ์โดยมีการโอนเงินส่วนที่เหลือจากค่าตัวที่ยังไม่ถึงคิวไลฟ์คืนให้กับแม่ตั๊ก เป็นเงินประมาณ 450,000 บาท เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2566 นอกจากนั้นเจนนี่ยังได้มีการพูดถึงเรื่องของขวัญและเงินที่ได้รับจากทั้ง 2 คนนี้ด้วย โดยเผยว่า ครั้งแรกเกิดขึ้นในวันครบรอบแต่งงานของตนกับสามี และถูกแม่ตั๊กว่าจ้างให้ไปขึ้นไลฟ์คู่กันเพื่อทำการตลาด ผลิตภัณฑ์โปรตีน ระหว่างไลฟ์แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ทำเซอร์ไพรส์มอบกล่องของขวัญให้ซึ่งในนั้นบรรจุเงินสด 300,000 บาทเอาไว้ พร้อมพูดในไลฟ์ว่าเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงาน แต่เมื่อรู้ว่าข้างในเป็นเงินตนก็ไม่กล้าดึงออกมาจากกล่อง เพราะคิดเอาไว้ว่าจะต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเงินค่าตัวแน่นอน เมื่อจบไลฟ์ก็ได้ทราบความจริงหลังจากอีกฝ่ายทักข้อความมาบอกว่า ตนยังจะต้องมาไลฟ์อีก 1 ครั้งตามที่ได้เงิน 300,000 บาทไป ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นเรทค่าจ้างปกติ คือ 300,000 บาทไลฟ์ 2 รอบ ไม่ใช่ของขวัญที่ให้แยกต่างหาก แต่ความจริงมันคือค่าตัว ตนจึงทำได้เพียงแค่พูดขอบคุณ เพราะไม่อยากมีปัญหา นอกจากนี้ ยังมีเรื่องนาฬิกาหรู มูลค่า 2 ล้านบาทที่เคยเป็นประเด็น เจนนี่ เล่าว่า ตนเป็นคนไปขอคำปรึกษากับทางป๋าเบียร์เอง เพราะต้องการที่จะซื้อแบรนด์เนมมาเก็บไว้เก็งกำไร ซึ่งทางฝั่งนั้นก็แนะนำเป็นนาฬิกายี่ห้อดังกล่าว พร้อมส่งรูปมาให้ตนเลือก และตกลงวันรับของ จู่ ๆ ฝั่งนั้นก็จัดการให้นาฬิกามาจัดส่งในวันที่เปิดตัวพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ของแม่ตั๊ก จัดฉากให้เหมือนกับว่าทั้งคู่เป็นคนซื้อมาให้ตน ทั้งเปิดกล่องเอง ทั้งตัดคลิป ไปลงช่องตัวเองให้คนเข้าใจว่าซื้อให้เจนนี่ แต่ความจริงแล้วนาฬิกาเรือนนี้เป็นเงินของเจนนี่เองทั้งหมด เบื้องต้นหากทางตำรวจเชิญตัวให้เข้าให้ปากคำ กรณีไลฟ์สดขายสิ้นค้าร่วมกัน ตนก็พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจเพราพมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง นักร้องสาวแฉยังไม่รับค่าจ้าง รันทุกวงการ! โผล่แฉอีกวีรกรรมแม่ตั๊ก เบี้ยวค่าตัวนักร้องสาวสวย เคยไปร้องเพลงงานฉลองความสำเร็จและการอวดรถใหม่ผ่านมานาน 2 ปี แต่ยังไม่ได้เงินค่าจ้างสักบาท โดยนักร้องสาวออกมาโพสต์ข้อความ ระบุว่า "ดูข่าวแม่ตั๊ก ก็ว่าทำไมคุ้น ๆ อ่อ…ฉันเคยไปร้องเพลงงานฉลองความสำเร็จและการอวดรถใหม่ของเค้าคันนี้ เมื่อ 2 ปีที่แล้วนั้น…ผ่านมาจนป่านนี้ ฉันยังไม่ได้ค่าจ้างงานนี้เลยค่ะ ถือว่าไปร้องงานการกุศลแล้วกัน เห็นว่าเค้าชอบทำบุญ ดีนะ วันนั้นไม่ขอซื้อทองกับเค้าด้วย ไม่ได้เกาะกระแสน้า แค่นึกขึ้นได้ เลยมาโพสต์ขำ ๆ อย่าซีเรียสเด้อ" ทำเอาชาวเน็ตแห่คอมเมนต์วิพากวิจารณ์และแชร์โพสต์นี้ไปเป็นจำนวนมาก ลีน่าจัง ขอโทษพิธีกรดังกล่าวหารับเงิน แม่ตั๊ก ขณะเดียวกันวันนี้ คุณลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่าจัง เดินทางมา สน.พญาไท ขอโทษคุณหนุ่ม กรรชัย พิธีกรดัง หลังไลฟ์สดด่าทอ และกล่าวหาว่ามีการรับเงินจากแม่ตั๊ก 1 ล้านบาท ระหว่างที่คุณลีน่า ยกมือไหว้ ร้องไห้สะอื้น มีผู้หญิงคนหนึ่ง บุกมากลางวงสัมภาษณ์ บอกให้คุณลีน่าเลิกร้องไห้