ยายร้องผู้มีอิทธิพลรุกถนน ทำที่ดินตาบอด

วันที่ 30 ก.ย. 2567 เวลา 16:06 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ยายร้อง ผู้มีอิทธิพลรุกถนน ทำที่ดินตาบอด ยายออกมาเรียกร้องสิทธิ เมื่อถนนสาธารณะที่อยู่ติดที่ดินของตัวเอง 14 ไร่ ถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านกับอดีตกำนันสร้างบ้านรุกถนน จนทำให้ที่ดินของตนเองตาบอด แบ่งให้ลูกหลานไม่ได้ ร้องเรียกไปหลายหน่วยงาน ทุกหน่วยงานฟันธงว่าผิด แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ยายวิ่งเต้นเรื่องนี้จนถูกหลอกเงินไปหลายหมื่น ล่าสุด ทางเทศบาลได้แจ้งว่า ให้ยายเอาที่ดินทำเป็นถนนแทน แล้วยายค่อยไปฟ้องคนรุกที่ดินถนนเอาเอง นางดอกไม้ วงศ์สาบาน อายุ 71 ปี เดินทางมาจากอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด ขอให้ช่วยนำที่ดินที่เป็นถนนสาธารณะคืนให้ เพราะคนที่สร้างบ้านรุกล้ำที่ดินสาธารณะเป็นคนใหญ่โตในพื้นที่ ร้องเรียนมาแล้วกว่า 20 ปี กลับไม่สามารถทำอะไรได้ นางดอกไม้ เล่าให้ฟังว่า ตนมีที่ดินอยู่ 14 ไร่ เป็นที่โฉนด ที่ดังกล่าวตนได้ใช้ทำการเกษตร โดยที่ดินฝั่งซ้ายกับด้านหน้าจะติดกับถนนสาธารณประโยชน์ โดยตนใช้ถนนเส้นนี้สัญจรมาตั้งแต่เด็ก ต่อมาปี 2541 มีอดีตผู้ใหญ่บ้านมาสร้างบ้านบนถนนสาธารณะ ปิดทางถนนเส้นนี้ ตนจึงเดินทางไปร้องเรียนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้ติดต่อไปยังอดีตกำนันในพื้นที่ โดยอดีตกำนันรายนี้รับปากว่าจะช่วยเอาที่ดินสาธารณะผืนนี้คืนให้ แต่ขอค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 30,000 บาท ตนจึงยอมจ่ายไป ต่อมา อดีตกำนันได้ขอเงินเพิ่มอีก 200,000 บาท แต่ตนไม่มีเงินให้ จากนั้นกำนันรายนี้ได้มาปลูกบ้านอีกหลังขึ้นมาบนถนนสาธารณะเส้นนี้ และมีลูกบ้าน 2 หลัง เข้ามาปลูกบ้านเพิ่ม ตนจึงเดินทางไปร้องเรียนกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานต่าง ๆ ได้ชี้ว่า มีการสร้างบ้านรุกล้ำที่ถนนจริง แต่หน่วยงานต่าง ๆ กลับเพิกเฉย จนกระทั่งล่าสุด ทางเทศบาลได้แจ้งกับตนมาว่า ให้ตนเอาที่ดินของตนเป็นถนนสาธารณะ แล้วไปฟ้องกับผู้ที่รุกล้ำถนนสาธารณะเอาเอง ด้วยความที่ตนไม่รู้กฎหมาย เป็นชาวเกษตรกรกันทั้งครอบครัว จึงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ตอนนี้ตนอายุมากแล้ว อยากแบ่งที่ดินให้ลูกหลานไว้ทำกิน แต่ก็แบ่งไม่ได้ เพราะถ้าแบ่งให้ก็จะกลายเป็นที่ตาบอดทันที ด้าน นายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่ดินใน Google Maps พบว่าที่ดินดังกล่าวมีถนนอยู่จริง แต่ตอนนี้ถนนหายไปแล้ว หลังจากนี้จะทำการตรวจสอบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าทำเรื่องนี้ไปถึงไหนแล้ว