อนุทิน ตั้งกรรมการสอบ ผู้ว่าฯเชียงราย ทิ้งพื้นที่ร่วมงานเกษียณ
วันที่ 29 ก.ย. 2567 เวลา 14:02 น.
นายกฯ ยังถามรู้ไหมผู้ว่าฯ กลับ กทม.แล้ว อนุทินเดือดจัด ตั้งกรรมการสอบ ผู้ว่าฯเชียงราย ทำซ้ำซาก ทิ้งพื้นที่ โผล่ให้นายกฯ เห็นหน้าจุดเดียว ก่อนบินเข้ากรุงเทพฯ ร่วมงานเกษียณ เหน็บรองผู้ว่าฯ พฤติกรรมไม่ต่างกัน จากเหตุการณ์วันที่ 24 ก.ย.67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ร่วมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปรากฏว่า นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไม่อยู่ในพื้นที่ ทำให้นายอนุทิน ส่ง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ช่วยประชาชน ล่าสุด วันที่ 27-28 ก.ย.67 นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำ ครม.ชุดใหญ่ ลงไปช่วยชาวบ้าน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ แต่ผู้ว่าฯเชียงราย มารับเพียงจุดเดียว ก่อนจะไปร่วมงานพิธีเกษียณราชการ ที่กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่สื่อโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ ผู้ว่าฯเชียงราย ปล่อยเกียร์ว่างไม่ช่วยชาวบ้าน เพราะจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.67 นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ ก็มาถามตนว่า ผู้ว่าฯเชียงราย กลับไปกรุงเทพฯ แล้ว ได้มาขออนุญาตหรือไม่ ตนก็ได้กราบขอโทษท่านนายกฯ ทันที ผู้ว่าฯ ไม่ได้มาบอกหรือ มาขออนุญาตอะไร เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ “ตรงนี้เป็นปัญหาเดิม ๆ พฤติกรรมเดิม ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรที่จะต้องออกนอกพื้นที่ เพราะตอนนี้ชาวเชียงราย เดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม ถือว่าสาหัสมาก ๆ เท่ากับผู้ว่าฯเชียงราย ทิ้งงานแล้วให้ นายกรัฐมนตรี มาทำแทนใช่หรือไม่ และถ้าหาก นายอรรษิษฐ์ ไม่เข้ามาช่วยในพื้นที่ ก็จะไม่สามารถจัดการปัญหาแบบเร่งด่วนได้เลย” นายอนุทินกล่าว นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า จะมาอ้างว่าจะเกษียณอายุราชการไม่ได้ เพราะคนมหาดไทยลมหายใจคือประชาชน ตนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนถึงความจำเป็นเร่งด่วน เพราะถือเป็นพฤติกรรมซ้ำซาก ที่ไม่ปฎิบัติงานในฐานะเป็นผู้บัญชาการในพื้นที่โดยตรง และทั้ง ๆ ที่นายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในพื้นที่ด้วย จึงถือเป็นการกระทำที่ อัปยศ อดสู ในฐานะที่กระทรวงมหาดไทย จะต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนอย่างสุดความสามารถ ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าเวลารัฐมนตรีลงพื้นที่ ต้องมีข้าราชการ มารอต้อนรับนั้น ตนอยากบอกว่า เวลานายกฯ หรือรัฐมนตรีลงมาให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน ผู้ว่าฯ ควรจะต้องมา เพราะเป็นการมาทำงานร่วมกัน กรณี จ.เชียงราย มีรองผู้ว่าฯ 4 คน ปรากฎว่ามาเพียงคนเดียวคือ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าฯ ส่วนรองผู้ว่าฯ อีก 1 คน จะเกษียณอายุราชการ และรองผู้ว่าฯ อีก 2 คน ไปรายงานตัวเรียนหลักสูตร วปอ. ซึ่งมันไม่ใช่เวลาที่จะไปด้วยซ้ำ ประชาชนเดือดร้อนขนาดนี้แล้วนายกรัฐมนตรี ก็ลงมา มันไม่ใช่เวลา แม้จะต้องสละสิทธิ์เรียน วปอ. ก็ต้องสละสิทธิ์ด้วยซ้ำไป ในขณะที่ ตัวผู้ว่าฯเชียงราย มาร่วมพิธีเกษียณในกรุงเทพฯ แล้วปล่อยให้ประชาชนอยู่กันด้วยความยากลำบาก ทิ้งให้นายกฯ อยู่ในพื้นที่ ถือว่าไม่ถูกต้อง “ผมขอฝากสื่อมวลชน กราบขอโทษพี่น้องชาวเชียงราย ขอให้มั่นใจว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป การทำงานในกระทรวงมหาดไทยจะเป็นปึกแผ่น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผมได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ให้คำนึงถึงเรื่องภัยจากน้ำท่วม เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด“