สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ประจำปีการศึกษา 2566

วันที่ 25 ก.ย. 2567 เวลา 20:05 น.

เวลา 13.15 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปยังหอประชุมใหญ่ อาคารไทยบุรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ประจำปีการศึกษา 2566 ในการนี้ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี รวม 1,850 คน, พระราชทานเหรียญรางวัลแก่บัณฑิตที่ได้เกียรตินิยม 46 คน, โล่รางวัลศึกษิตแห่งปีที่วลัยลักษณ์ แก่บัณฑิตผู้ทำกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนนักศึกษา 3 คน, โล่กิตติการแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 1 คน, เข็มประกาศเกียรติคุณแก่อาจารย์ดีเด่น 7 คน โอกาสนี้ พระราชทานพระโอวาทความว่า "ผู้สำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาแล้ว ย่อมมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะออกไปประกอบอาชีพการงาน ให้บังเกิดประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวมในภายหน้า แต่การที่ทำงานสร้างสรรค์ความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ได้ จำเป็นที่แต่ละคนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจอันกระจ่างชัดที่เรียกว่า "ปัญญา" เป็นพื้นฐานสำคัญด้วย ปัญญานั้นเกิดขึ้นได้ด้วยการฝึกฝน กล่าวคือเมื่อจะศึกษาเรียนรู้ในเรื่องใด ก็ต้องตั้งใจสังเกตจดจำ นำไปคิดตามให้เห็นจริง แล้วฝึกหัดปฏิบัติจนเชี่ยวชาญชำนาญ และเมื่อมีเรื่องราวเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ก็ติดตามค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมแล้วนำมาพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้าน ให้เห็นเหตุเห็นผล เห็นความเป็นจริงของเรื่องนั้น ๆ ทุกแง่มุม ผู้มีปัญญาย่อมสามารถพิจารณาวินิจฉัยเรื่องราวต่าง ๆ ได้ ด้วยความเที่ยงตรงเป็นกลางปราศจากอคติ ซึ่งมีคุณูปการต่อการปฏิบัติงานอย่างมาก หากบัณฑิตตั้งใจฝึกฝนพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีปัญญาอย่างแท้จริงแล้ว ก็มั่นใจได้ว่าแต่ละคนจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน และดำเนินชีวิตได้อย่างผาสุกมั่นคงตลอดไป"