เจ้าหน้าที่เร่งเก็บกู้ถังกรดไฮโดรคลอริกตกกลางแยก คปอ.

วันที่ 24 ก.ย. 2567 เวลา 20:01 น.

วันนี้ (24 ก.ย. 67) ศูนย์วิทยุพระราม 199 รับแจ้งเหตุพบถังสารเคมีตกหล่นบน ถนนจันทรุเบกษา ใกล้แยก คปอ. แขวงคลองถนน เขตสายไหม ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางเขน หน่วยดับเพลิงและกู้ภัย ทอ. หน่วยร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่กลางแยก คปอ. พบถังพลาสติกสีน้ำเงิน ขนาด 30 กก. ล้มตะแคงมีของเหลวรั่วไหลออกมากลางถนน เจ้าหน้าที่ต้องปิดกันการจราจร จากนั้นหน่วยกู้ภัยและดับเพลิง ทหารอากาศได้สวมชุดป้องกันสารเคมี เข้าตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็น สารเคมีชนิดกรดเกลือ หรือ กรดไฮโดรคลอริก ซึ่งมีฤทธิ์ กัดกร่อน มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ และผิวหนัง เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายเป็นพิเศษ ก่อนจะยกออกมาไว้ที่พื้นหญ้าและนำถุงพลาสติกมาสวมห่อหุ้ม และประสานเจ้าหน้าที่ชำนาญการมาเคลียพื้นที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงทำการเปิดการจราจรได้เป็นปกติ เรืออากาศตรี วราวุฒิ ไพรี นายทหารปฏิบัติการกู้ภัย กองดับเพลิงและกู้ภัย กรมช่างโยธาทหารอากาศ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งพบถังสารเคมีไม่ทราบชนิดตกหล่นกลางถนน จึงเดินทางมาตรวจสอบ พบเป็นสารไฮโดรคลอริก ซึ่งเป็นสารที่มีผลต่อทางเดินหายใจและกัดกร่อน ซึ่งได้มีการปฏิบัติร่วมกับ ดับเพลิงบางเขน เก็บกู้และนำไปกำจัดที่ดับเพลิงบางเขนต่อไป ส่วนผลกระทบ หากมีการสัมผัสหรือสูดดมเข้าไปก็จะทำให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจรวมถึงมีการระคายเคืองที่ผิวหนัง ซึ่งวิธีแก้เบื้องต้นให้ใช้น้ำเปล่าล้างออก หากไม่หายให้รีบไปพบแพทย์ ซึ่งตอนนี้ยังก็ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำหล่นไว้ ด้าน นายรณยุทธ กุลพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญการกู้ภัยในที่อับอากาศ และกู้ภัยสารเคมี หน่วย ESU ระบุว่า สารเคมีที่พบเป็นกรดไฮโดรคลอริก หรือที่รู้จักกันในชื่อกรดเกลือ ที่ใช้ในการทำความสะอาดทั่วไป ซึ่งจากการสอบถามทราบว่าได้ตกลงมาจากรถยนต์ ทำให้ตัวถังแตกชำระจนสารเคมีด้านในรั่วซึ่มออกมาจากถัง ซึ่งทางทีมกู้ภัยของ ทอ. ได้มาทำการเก็บกูเบื้องต้นไปแล้ว ซึ่งทางทีม ESU ได้มาทำการปรับสภาพเป็นกลางเรียบร้อย โดยสารเคมีจำพวกนี้มีฤทธิ์เป็นกรดเข้มข้นสูงซึ่งวัดค่า pH ได้ 0-1 ซึ่งตอนนี้ได้ใช้ปูนขาวซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่างมาทำการผสมให้ค่า pH เป็นกลาง ในส่วนของความกังวนว่าจะมีผลกระทบหากมีการล้างลงแหล่งน้ำหรือไม่ ส่วนนี้ยืนยันว่าไม่มีผมกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอนเนื่องจากได้มีการทำให้เจือจางมาอยู่ในระดับที่ไม่อันตรายแล้ว