น้ำป่าหลากท่วมชุมชนกลางดึก

วันที่ 24 ก.ย. 2567 เวลา 11:25 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - พื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ยังมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ เมื่อคืน ทำให้พื้นที่น้ำท่วมขังเดิมยังน่าห่วง ขณะที่แหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ใกล้เต็มความจุ เร่งระบายน้ำต่อเนื่อง เป็นภาพเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย มูลนิธิเพชรเกษมเขตเวียงสา และเขตท่าวังผา นำเรือและอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่น ๆ เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน มีชาวบ้านติดค้างกว่า 40 หลังคาเรือน ในพื้นที่หมู่บ้านต้นหนุน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำป่าหลากล้นตลิ่งลำน้ำสา และลำน้ำสาขาแม่น้ำน่าน เข้าท่วมบ้านเรือน ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 50-100 เซนติเมตร และนับเป็นครั้งที่ 3 แล้วในรอบ 1 เดือน ที่ถูกน้ำป่าไหลหลาก ส่วนที่จังหวัดลำปาง ยังมีฝนตกต่อเนื่องสลับหยุด ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ทำให้ยังมีน้ำไหลลงมาพื้นที่น้ำท่วมขังของอำเภอห้างฉัตร และเกาะคา แต่สถานการณ์น้ำในลำน้ำไม่หนักมาก เท่ากับเมื่อวาน โดยเฉพาะที่บ้านจำ ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร พื้นที่น้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้น บ้านเรือนนับพันหลัง วัด โรงเรียนบ้านจำ โรงพยาบาลเสริมสุขภาพประจำตำบลปางม่วง และถนนสายเลี่ยงเมืองลำปาง อำเภอเกาะคา ไปยังอำเภอห้างฉัตร บางจุดน้ำยังสูงเกือบ 2 เมตร ส่วนทางรถไฟที่ถูกน้ำป่าไหลหลากพื้นที่ดอยขุนตาล ส่งผลให้คันดินทางรถไฟขาด ในพื้นที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน รอยต่อจังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมยังไม่แล้วเสร็จ ผู้โดยสารยังลงที่ลำปางแล้วต่อรถบัสต่อไปเชียงใหม่ และจากเชียงใหม่ไปลำปาง ไปทางภาคอีสาน ที่จังหวัดสกลนคร ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำอูน รายงานว่า ตอนนี้ เขื่อนน้ำอูนมีปริมาณน้ำกว่า 470 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 90.46 %  เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 21 เซนติเมตร เนื่องจากมีน้ำใหม่ไหลเข้าเขื่อนเกือบ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้บริหารจัดการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนวันละกว่า 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ชาวบ้านในตัวเมืองหวั่นน้ำท่วมเหมือนปี 2560 ที่เขื่อนน้ำอูนถูกแรงดันน้ำกัดเซาะเขื่อนพังเสียหาย เตรียมเก็บของขึ้นที่สูง ส่วนน้ำในหนองหาร ตอนนี้มีปริมาณน้ำกว่า 259 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 97.15 % เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูระบายน้ำ 3 บาน เพิ่มการระบายน้ำต่อวันเกือบ 13 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงลำน้ำก่ำ เพื่อไหลไปลงแม่นำโขง ที่อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ช่อง 7HD ร่วมกับ กองทัพไทย เปิดรับบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง เครื่องปรุงรส น้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้าน ยากันยุง เทียนไข ไฟแช็ก ไม้ขีดไฟ ผ้าอนามัย ถุงดำ ไฟฉาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น สามารถบริจาคได้ทุกวันที่ ช่อง 7HD ตั้งแต่วันนี้ - 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09.00 - 17.00 น. สอบถามข้อมูลได้ที่ 0 2495 7777 กด 0 และที่สภาพอากาศเป็นเช่นนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่าน ภาคเหนือ และอีสานตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะไหหลำของจีน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง พัดปกคลุมบ้านเรา จึงทำให้เหนือ-อีสาน มีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนล่าง จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ที่ต้องเตือนปริมาณฝนตกเกิน 90 มิลลิเมตร ขึ้นไป ในพื้นที่สีแดง ตกหนักถึงหนักมากที่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ เลย สกลนคร ปัตตานี และนครพนม สำหรับปริมาณฝนสะสมในรอบ 24 ชั่วโมง จากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ณ เวลา 09.00 น. ปริมาณฝนสะสมสูงสุด อยู่ที่สถานีบ้านหลวง จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 166 มิลลิเมตร ตามมาด้วย สถานีสะพานบ้านต๋ำ จังหวัดพะเยา วัดได้ 158.20 มิลลิเมตร และที่สถานีบ้านสะเนียน จังหวัดน่าน ด้านกรมชลประทาน ออกประกาศเตือนพื้นที่ 11 จังหวัดในภาคกลาง เฝ้าระวังปริมาณน้ำที่จะเกิดขึ้น จากอิทธิพลจากร่องมรสุมกำลังแรง และพายุโซนร้อนซูลิกที่จะทำให้ฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเจ้าพระยามากขึ้น และอาจจะมีการพิจารณาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดขึ้นไป ในเกณฑ์ไม่เกิน1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ช่วงตั้งแต่กลางสัปดาห์เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้นอีก 60-100 เซนติเมตร เขื่อนเจ้าพระยา ที่ถือเป็นกุญแจสำคัญของการบริหารจัดการน้ำ ลงสู่ลุ่มภาคกลาง ส่วนภาพรวมปริมาณน้ำในเขื่อนทั่วประเทศ โดยเฉพาะเขื่อนขนาดกลางและขนาดใหญ่ ปริมาณน้ำยังน้อย เช่น เขื่อนภูมิพล ระดับน้ำมี 54% ของความจุ, เขื่อนสิริกิติ์ ระดับน้ำมากหน่อย อยู่ที่ 85% ของความจุ ส่วนเขื่อนลำตะคองน้ำน้อย เพียง 28% เท่านั้น มีคำแนะนำให้ประชาชนสังเกต ภัยธรรมชาติส่งสัญญาณเตือนดินถล่ม ให้ดูจากฝนตกต่อเนื่องนานกว่า 6 ชั่วโมง น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมีสีขุ่น หรือสีเดียวกับดินภูเขา ดินมีสภาพชุ่มน้ำกว่าปกติ ระดับน้ำในลำห้วยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงดังผิดปกติ จากภูเขาหรือลำห้วย และน้ำท่วมหมู่บ้าน และเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว หากเห็นสัญญาณเตือนแบบนี้ให้เตรียมตัวให้พร้อม หรือ อพยพออกมาเพื่อความปลอดภัย