อุบัติเหตุสลด เจ้าของธุรกิจรถบรรทุกสินค้าเกษตรขับฟอร์จูนเนอร์ตกคลองจมน้ำเสียชีวิต
วันที่ 24 ก.ย. 2567 เวลา 09:47 น.
วันนี้ (24 ก.ย. 67) เมื่อเวลา 03.40 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.วีรภัทร บุญทรง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.สามชุก ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เอนกประสงค์ ตกคลองจมน้ำมีคนเสียชีวิตติดอยู่ในรถ บริเวณถนนเลียบคลอง สาย 3365 วังหิน -สามชุก หมู่ 5 ต.ย่านยาว อ.สามชุก จึงไปตรวจสอบพร้อมอาสากู้ภัยมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เอนกประสงค์ รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ญม 1944 กรุงเทพมหานคร จมอยู่ในคลอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้รถยกมาลากขึ้นจากน้ำ เพื่อตรวจสอบ พบหน้ารถมีรอยชนได้รับความเสียหายบางส่วน ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นางขวัญจิตร อายุ 63 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ตรงกลางระหว่างเบาะหน้าซ้ายกับเบาะคนขับ จึงนำร่างออกมาตรวจพิสูจน์ เบื้องต้นไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานสามีและลูกสาวผู้เสียชีวิตให้มาดูที่เกิดเหตุ เพื่อยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร และตรวจสอบทรัพย์สิน ซึ่งสามีและลูกสาวต่างยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือ นางขวัญจิตร เป็นเจ้าของธุรกิจรถบรรทุกขนส่งสินค้าทางการเกษตร ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตจะไปไหน เนื่องจากผู้เสียชีวิตไม่ได้บอก และไม่มีใครรู้ ซึ่งผู้เสียชีวิตก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร ด้าน นายมณฑล ธรรมเที่ยงตรง หัวหน้าทีมประดาน้ำ ของมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี บอกว่า รถคันเกิดเหตุได้จมน้ำมิดทั้งคัน น้ำลึกประมาณ 3-4 เมตร และกระแสน้ำไหลแรงพอสมควร ลักษณะรถจมขวางคลองจึงใช้รถยกดึงขึ้นมาบนบกเพื่อตรวจสอบ ก็พบมีคนเสียชีวิตเป็นหญิง ซึ่งเราไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เพราะรถจมน้ำลึกและใช้เวลานาน ขณะที่แม่ค้าขายของที่ตลาดสามชุก ซึ่งเป็นคนเห็นเหตุการณ์และแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน เพื่อจะไปขายของที่ตลาดสามชุก พอถึงที่เกิดเหตุเห็นรถคันเกิดเหตุขับอยู่ด้านหน้า มุ่งหน้าเข้าอำเภอสามชุก ระยะห่างพอสมควร จู่ ๆ รถคันเกิดเหตุก็พุ่งลงไปในคลอง ตนเห็นเหตุการณ์ก็ตกใจ พอตั้งสติได้ก็เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ไปดู เห็นรถอยู่ในคลองจึงตะโกนเรียกคนที่อยู่ในรถ จากนั้นคนในรถเปิดสัญญาณไฟกระพริบขอความช่วยเหลือ ตนจะลงไปช่วยก็ว่ายน้ำไม่เป็น ได้แต่ตะโกนเรียกคนขับ และรถก็ค่อย ๆ จมน้ำ ตนจึงวิ่งไปตะโกนเรียกชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุให้มาช่วยแต่ไม่มีใครตื่น จึงโทรหาสามีให้โทรหาตำรวจ จากนั้นตนก็โทรแจ้งกู้ภัยให้มาช่วย ประมาณ 20 นาที กู้ภัยก็มาถึงแต่รถได้จมน้ำทั้งคันแล้ว ตนรู้สึกเสียใจมากที่เห็นคนประสบเหตุจมน้ำแต่ไม่สามารถช่วยได้ เพราะว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้แต่ร้องไห้เสียใจ